แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การโอนสิทธิเรียกร้อง มิใช่กิจการเฉพาะที่ต้องห้ามมิให้ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจทั่วไปกระทำการแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 801 จ. เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจทั่วไปของบริษัท ย. จึงเป็นผู้มีอำนาจโอนสิทธิเรียกร้องที่บริษัท ย. มีต่อจำเลยที่ 1 เพื่อให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้แก่โจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันว่าจ้างบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้เป็นผู้ก่อสร้างอาคารสถานี ที่พักอาศัย และงานก่อสร้างปลีกย่อยระหวางเส้นทางรถไฟสายฉะเชิงเทรา-สัตหีบ ช่วงที่ 2 ซึ่งมีมูลค่างานว่าจ้างประมาณ110,000,000 บาท บริษัทผู้รับจ้างได้ทำการก่อสร้างงานตามโครงการดังกล่าวจนแล้วเสร็จ ตามระยะเวลาที่กำหนด จำเลยทั้งสองและบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คิดบัญชีค่างานค้างชำระต่อกันปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้ค้างชำระเงินค่าก่อสร้างแก่บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นจำนวน4,879,856.12 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2529บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องที่มีอยู่ต่อจำเลยทั้งสองให้แก่โจทก์เป็นเงิน4,879,856.12 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามกฎหมาย และโจทก์ได้ตกลงยินยอมรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้จำนวน 4,879,856.12 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2527 ถึงวันฟ้องเป็นเงินค่าดอกเบี้ย 711,924.19 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 5,591,780.31บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน4,879,856.12 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 และบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คิดบัญชีชำระหนี้ต่อกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่นแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด จึงไม่มีสิทธิโอนสิทธิเรียกร้องตามฟ้องให้แก่โจทก์แต่ประการใด หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องไม่ได้ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจทำการโอนสิทธิเรียกร้องได้ ดังนั้น สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นนิติบุคคลต่างด้าวไม่มีตัวแทนหรือสาขาในประเทศไทยไม่สามารถฟ้องคดีจำเลยในประเทศไทยได้ จึงคบคิดกับโจทก์ในคดีนี้ทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องต่อกัน สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ จำเลยที่ 1ไม่ได้รับหนังสือแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องแต่อย่างใด และไม่เคยให้ความยินยอมให้บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัด โอนสิทธิเรียกร้องให้แก่โจทก์ด้วย สัญญาระหว่างจำเลยที่ 1กับบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด นั้นได้มีข้อตกลงว่า หากเกิดกรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญานี้ ให้ใช้กฎหมายของสาธารณรัฐจีนตัดสิน ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด และจำเลยที่ 1แต่ประการใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน4,879,856.12 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 19 มีนาคม 2529 จนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ปัญหาข้อที่ 3 ตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า การโอนสิทธิเรียกร้องระหว่างบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่นแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด กับโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการคบคิดกันโดยทุจริตขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตกเป็นโมฆะหรือไม่ จำเลยทั้งสองฎีกาประการแรกว่า หนังสือมอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.11 เป็นการมอบอำนาจทั่วไป นายเจิ้น เสิ้น โสวงผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัด ตามเอกสารดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิโอนสิทธิเรียกร้องของบริษัทที่มีอยู่ต่อจำเลยที่ 1 ให้โจทก์ เพราะการโอนสิทธิเรียกร้องนี้ตามหลักกฎหมายถือว่าเป็นการที่เจ้าหนี้ตกลงยินยอมโอนสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง ซึ่งย่อมถือได้ว่าเป็นการจำหน่ายสิทธิของเจ้าหนี้เดิม จึงต้องมีการมอบอำนาจเฉพาะการตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 801 วรรคสองเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่วินิจฉัยมาแล้วรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 1 เป็นหนี้บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัดอยู่เป็นเงิน 4,879,856.12 บาท บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่นแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด จึงมอบอำนาจให้นายเจิ้น เสิ้น โสวงเป็นผู้โอนสิทธิเรียกร้องที่มีต่อจำเลยที่ 1 เพื่อให้จำเลยที่ 1ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ซึ่งหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวผ่านการรับรองจากศาลไต้หวัน กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สถานกงสุลไทยประจำฮ่องกง จึงชอบด้วยกฎหมาย และปรากฏว่าข้อความในเอกสารหมายจ.11 พร้อมคำแปลเป็นเรื่องที่บริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่นแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ตั้งให้นายเจิ้น เสิ้น โสวง เป็นตัวแทนมอบอำนาจทั่วไป ดังนั้น นายเจิ้น เสิ้น โสวง ย่อมมีอำนาจทำกิจการใด ๆ ในทางจัดการแทนบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่นแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวการได้ทุกอย่าง ประกอบกับการโอนสิทธิเรียกร้องก็ไม่เป็นกิจการที่ต้องห้ามมิให้ตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไปกระทำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 801นายเจิ้น เสิ้น โสวง จึงมีอำนาจโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้โจทก์แทนบริษัทยูเนียนเฟาน์เดชั่น แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด…”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์