แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาจ้างทำของถือผลสำเร็จแห่งการที่ทำ ถ้าทำการที่จ้างไม่เสร็จก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้าง และถ้ารับเงินที่ยืมทดรองไปเพื่อดำเนินการก่อนก็ต้องคืนผู้ว่าจ้าง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนมกราคม ๒๔๙๖ จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ขุดลอกคลองตามแบบและรายการดังสำเนาท้ายฟ้องเป็นเงิน ๒๕,๐๐๐ บาท ในการนี้จำเลยต้องจัดการให้ได้รับอนุญาตจากการเทศบาลนครกรุงเทพฯด้วย แต่จำเลยเพิกเฉยไม่จัดการเป็นเหตุให้โจทก์ต้องหยุดงานเพราะตำรวจบังคับให้รื้อทำนบกั้นน้ำ ทำงานไม่ได้ ๑๐ วัน ค่าเสียหายวันละ ๓๐๐ บาทเป็นเงิน ๓,๐๐๐ บาท โจทก์ทำงานเสร็จและส่งมอบจำเลยใน กันยายน ๒๔๙๖ จำเลยจ่ายค่าจ้างเพียง ๑๕,๐๐๐ บาท ส่วนที่ค้าง ๑๐,๐๐๐ บาท จำเลยผัดชำระ โจทก์ทวงถามจำเลยเพิกเฉย จึงฟ้องขอให้จำเลยใช้พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์เป็นฝ่ายรับผิดชอบในการขออนุญาตต่อเทศบาล การหยุดงานเป็นความผิดของโจทก์ที่ก่อขึ้นเอง เนื่องจากโจทก์ไม่ทำงานให้เสร็จตามแบบแปลนและรายการที่ตกลงกันไว้ จำเลยได้เตือนให้โจทก์ทำการให้ถูกต้องตามสัญญาหลายครั้ง โจทก์อ้างเหตุบิดพริ้วต่าง ๆ ที่สุดในเดือน สิงหาคม ๒๔๙๖ โจทก์ใช้อุบายหลอกลวงขอยืมเงินทดรองล่วงหน้าจากจำเลย ๑๕,๐๐๐ บาท โดยอ้างว่าจะนำไปจ่ายค่าแรงงานและเป็นทุนทำงานต่อ จำเลยหลงเชื่อจ่ายให้โจทก์ไป จำเลยทิ้งงานหลยหนี โจทก์ต้องจ้างบุคคลอื่นทำการขุดลอกคลองต่อสิ้นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาทแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งทำนองเดียวกับกับที่ฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และฟ้องแย้งจำเลย
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยรับผิดใช้ค่าเสียหายโจทก์ ๓,๐๐๐ บาท และให้โจทก์คืนเงินที่โจทก์ยืมทดรองไปแก่จำเลย หักกันแล้วโจทก์คงคืน ๑๒,๐๐๐ บาท
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ตกลงกับจำเลยว่าจะไปขออนุญาตต่อเทศบาลเอง แม้โจทก์จะต้องหยุดงานและได้รับความเสียหาย ก็ไม่ใช่ความผิดของจำเลย ๆ จึงไม่ต้องรับผิด และการจ้างนี้เป็นการจ้างทำของ เมื่อโจทก์ยังทำงานไม่เสร็จ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะได้รับเงินค่าจ้าง โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าจ้างจากจำเลยไม่ได้ และเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ไปเป็นเงินยืมทดรองดำเนินงาน โจทก์ก็ต้องคืนจำเลย พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย และให้โจทก์คืนเงินอีก ๓,๐๐๐ บาทแก่จำเลย