คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารที่มีข้อความว่า ขอทำสัญญามัดจำถือสวนต่อ ถ้าไม่ได้ถือขอมัดจำคืน การถือสวนจะตกลงราคากันเมื่อวันใกล้ถือสวน ดังนี้ ถือว่ายังไม่เป็นสัญญาเช่าเดิมที่สิ้นอายุ

ย่อยาว

คดีมีปัญหาเกี่ยวแก่การแปลเอกสารหมาย ๒ ท้ายฟ้อง ซึ่งจำเลยผู้เช่าสวนของพระ อ. บิดาโจทก์ทำให้ไว้มีข้อความว่า “ข้าพเจ้านายยู่กิด แซ่เฮง ขอทำสัญญามัดจำถือสวนต่อ ๓ ปี ถ้าไม่ได้ถือ ขอมัดจำคืนเป็นเงินหนึ่งพันบาทถ้วน แต่การถือสวนนั้นจะตกลงราคากันเมื่อเวลาวันใกล้ถือสวน มากน้อยเท่าใดแล้วแต่จะตกลงกันทั้งสองฝ่าย..ฯลฯ” ต่อมาบิดาโจทก์ตาย ครั้นใกล้หมดอายุสัญญาเช่าเดิม โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งอัตราค่าเช่าที่จะเช่าต่อไปเป็นปีละ ๖๐๐๐ บาท จำเลยตอบว่าจะให้ปีละ ๑๔๕๐ บาท โจทก์ไม่ตกลงและได้บอกเลิกสัญญาเช่า จำเลยไม่ยอมออกและให้การต่อสู้ว่าตามเอกสารหมาย ๒ พระ อ.ตกลงให้จำเลยต่ออายุสัญญาเช่าอีก ๓ ปี และตกลงค่าเช่าปีละ ๑๔๕๐ บาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกันว่า พระ อ.กับจำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกันที่จะให้จำเลยเช่าสวนต่ออีก ๓ ปี บัดนี้สิ้นกำหนดสัญญาเดิมแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะเช่าสวนต่อไปพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากสวนพิพาทห้ามเกี่ยวข้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อความในเอกสารดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า การที่จะให้เช่าสวนต่อไปจะเด็ดขาดต่อเมื่อได้ตกลงราคาค่าเช่ากัน เมื่อสัญญาเดิมจวนสิ้นอายุ ถ้าไม่เป็นที่ตกลงกันผู้เช่าก็จะรับเงินมัดจำคืนไป หาเป็นสัญญาเช่าเด็ดขาดไม่เห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสอง
พิพากษายืน

Share