แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จุดที่พยานเห็นจำเลยอยู่หน้าปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่ใกล้กับที่จอดรถบรรทุก ดังนั้น หากจำเลยเป็นคนร้ายเมื่อพบพยานเช่นนั้นก็น่าจะรีบขับรถบรรทุกออกจากปั๊มน้ำมันหลบหนีไป ไม่มีเหตุที่จำเลยจะหยุดรถเพื่อเปลี่ยนป้ายที่หน้ารถบรรทุก เพราะขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน แม้ป้ายหน้ารถบรรทุกจะไม่ถูกเปลี่ยนก็ไม่เป็นที่ผิดสังเกต พยานโจทก์จึงมีพิรุธน่าสงสัย ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ไม่ได้คืน 147,300 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) วรรคสอง จำคุกมีกำหนด 3 ปีให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน 147,300บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยเป็นคนร้ายลักรถบรรทุกของผู้เสียหายไปหรือไม่ โจทก์มีนายสมศักดิ์ ดีอ้น หลานของผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า เห็นจำเลยกำลังกลับป้ายชื่อบริษัทมิตรไพบูลย์ขนส่ง จำกัด บนหลังคาเก๋งตรงคนขับที่หน้าปั๊มน้ำมันภัทรนันท์ซึ่งรถบรรทุกจอดอยู่ในคืนเกิดเหตุ ขณะนายสมศักดิ์ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน นายสมศักดิ์ได้หยุดรถและพูดคุยกับจำเลย เห็นว่า จุดที่นายสมศักดิ์เห็นจำเลยอยู่หน้าปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่ใกล้กับที่จอดรถบรรทุก หากจำเลยเป็นคนร้ายจริงจำเลยน่าจะรีบขับรถบรรทุกออกจากปั๊มน้ำมันหลบหนีไป จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะหยุดรถบรรทุกเพื่อเปลี่ยนป้ายที่หน้ารถบรรทุก เพราะขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนแม้ป้ายหน้ารถบรรทุกจะไม่ถูกเปลี่ยนก็ไม่เป็นที่ผิดสังเกตอย่างใด นอกจากนี้เมื่อนายสมศักดิ์พบจำเลยเช่นนี้จำเลยก็น่าจะรู้ตัวว่ามีผู้พบเห็นจำเลยเป็นคนร้ายแล้วจะต้องไปบอกผู้เสียหาย จำเลยน่าจะหลบหนีไปทันที แต่จำเลยยังเอารถบรรทุกและสินค้าของผู้เสียหายไป คำเบิกความของนายสมศักดิ์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานเดียวจึงเป็นพิรุธน่าสงสัย นอกจากนี้โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นการกระทำที่จะชี้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมา พยานหลักฐานโจทก์มีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์