คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวนและชั้นพิจารณาของศาล แต่ศาลล่างลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามเพราะเหตุรับสารภาพชั้นจับกุมและ สอบสวนเท่านั้น ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษให้จำเลยคนละกึ่งหนึ่งได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก ๑ คนมีปืนเป็นอาวุธได้ร่วมกันใช้ปืนยิงนายจวน อ้นเล่ห์ หลายนัดโดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนถูกนายจวนถึงแก่ความตาย ปรากฎตามรายงานการชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้อง จำเลยมีอาวุธปืนพก ๑ กระบอก ไม่มีเครื่องหมายนายทะเบียนประทับ กระสุนปืน ๑๒ นัด และลูกระเบิดขว้าง ๑ ลูกไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ลูกระเบิดดังกล่าวเป็นเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จำเลยที่ ๒ มีปืนพก ๑ กระบอกไม่มีเครื่องหมายของนายทะเบียนประทับ กระสุนปืน ๓๓ นัดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๓ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๕๕, ๗๒, ๗๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๑ มาตรา ๕, ๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๓ กฎกระทรวงฉบับที่ ๗ (พ.ศ.๒๕๐๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ข้อ (๑๒) ริบของกลาง ฯลฯ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าคนตาย รับสารภาพในข้อหามีอาวุธปืนฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๓ จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๓ จำคุก ๘ เดือน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๑ มาตรา ๕, ๘ จำคุก ๔ ปี จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๓ จำคุก ๘ เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก ๕๐ ปี รวมจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๕๔ ปี ๘ เดือน จำคุกจำเลยที่ ๒ ไว้ ๕๐ ปี ๘ เดือน ริบของกลาง ฯลฯ จำเลยทั้งสองรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๓๖ ปี ๑ เดือน ๑๐ วัน (ที่ถูกเป็น ๓๖ ปี ๕ เดือน ๑๐ วัน) จำคุกจำเลยที่ ๒ ไว้ ๓๓ ปี ๙ เดือน ๑๐ วัน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องฐานฆ่าคนตาย ส่วนข้อหาฐานมีอาวุธปืนฯ ขอให้ลดโทษลงกึ่งหนึ่งหรือเบาลงกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองใช้ปืนยิงฆ่าผู้ตายจริง สำหรับปัญหาที่จำเลยทั้งสองฎีกาในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ว่าควรลดโทษให้จำเลยคนละกึ่งหนึ่งเพราะจำเลยให้การรับสารภาพตลอดมานั้น เห็นว่าจำเลยรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวนและชั้นพิจารณาของศาล แต่ศาลล่างลดโทษให้จำเลยเพราะเหตุรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนเท่านั้น เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นสมควรลดโทษให้จำเลยทั้งสองคนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เอาโทษในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ รวมกับโทษในข้อหาความผิดต่อชีวิต แล้วจึงลดโทษให้หนึ่งในสามนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษที่จะลงแก่จำเลยทั้งสองในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ คนละกึ่งหนึ่งจากโทษที่ศาลล่างกำหนดเมื่อรวมกับโทษในข้อหาความผิดต่อชีวิตซึ่งลดหนึ่งในสามแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓๕ ปี ๘ เดือน จำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๓๓ ปี ๘ เดือน นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share