คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การย้ายที่เก็บแร่เพื่อความปลอดภัยโดยสุจริต มิได้เจตนาหลีกเลี่ยงเสียค่าภาคหลวงแร่โดยได้แจ้งปริมาณและมีหนังสือกำกับแร่เคลื่อนที่ไว้แล้วนั้น ไม่มีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ จำเลยที่ ๑ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ ๒ ให้เป็นผู้จัดการเหมืองรายนี้แทนจำเลยที่ ๒ จำเลยได้สมคบกันขนย้ายแร่ออกนอกเขตต์ประทานบัตรโดยมิได้รับอนุญาต และเจตนาจะหลีกเลี่ยงไม่เสียค่าภาคหลวง จำเลยที่ ๒ เคยต้องโทษมาแล้วจำเลยทั้งสองปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่จำเลยขนย้ายแร่ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงเสียค่าภาคหลวง เพราะได้แจ้งปริมาณแร่และทำหนังสือกำกับแร่เคลื่อนที่แจ้งไว้แล้ว ยังจะเอาผิดตาม พ.ร.บ.เก็บค่าภาคหลวงแร่ ๒๔๘๖ มาตรา ๙, ๑๐ ไม่ได้ แต่เป็นผิดต่อ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๔ มาตรา ๒๐ ปรับจำเลยคนละ ๖๐๐ บาท เพิ่มโทษจำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๗๒ และลดกึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยที่หนึ่ง ๓๐๐ บาท จำเลยที่สอง ๔๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อที่อ้างว่าการที่จำเลยขนย้ายแร่โดยเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เสียค่าภาคหลวงนั้น โจทก์ไม่มีพะยานมาสืบ ตาม พ.ร.บ.การเก็บภาคหลวงแร่ ๒๔๘๖ มาตรา ๙ หาได้หมายถึงการขนย้ายไปเก็บดังเช่นคดีนี้ไม่และจำเลยขนย้ายแร่โดยมีหนังสือกำกับแร่เคลื่อนที่ไม่ผิด พ.ร.บ.ทำเหมืองแร่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๔ มาตรา ๒๐ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้มีปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว ศาลล่างฟังต้องกันว่าจำเลยจนย้ายแร่เพื่อความปลอดภัย มิได้เจตนาหลีกเลี่ยงเสียค่าภาคหลวงแร่ และการขนย้ายแร่มิได้ประสงค์ส่งไปนอกราชอาณาจักรหรือเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร คดีไม่ต้องด้วย พ.ร.บ. เก็บค่าภาคหลวงแร่ ๒๔๘๖ มาตรา ๙, ๑๐ เพราะมิได้ห้ามถึงการย้ายที่เก็บแร่เพื่อความปลอดภัยโดยสุจริต และการขนย้ายแร่จำเลยก็มีหนังสือกำกับแร่เคลื่อนที่ เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๔ มาตรา ๑๗ แล้ว จึงไม่ผิดมาตรา ๒๐
พิพากษายืน

Share