คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปี จนมีผู้มาขอจับจอง เจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครองดังนี้ ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่พิพาทจากนายบ๋า โดยทำหนังสือซื้อขายกันต่อคณะกรมการอำเภอตั้งแต่ พ.ศ. 2471 ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2491 จำเลยเข้าแย่งกรรมสิทธิ์ ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์

จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า จำเลยจับจองได้รับใบเหยียบย่ำมา

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากนายบ๋าซึ่งมีบริเวณเป็นนาเพียง 3 ไร่ นอกนั้นเป็นที่รกร้างว่างเปล่าโจทก์มิได้เอาใจใส่ดูแล เป็นแต่ฝากผู้อื่นซึ่งไม่รู้เขตที่แน่นอนโจทก์มิได้ครอบครองที่ซึ่งเป็นป่า คงครอบครองเฉพาะที่ซึ่งนายหลำทำนา จึงพิพากษาว่า ที่ดินส่วนที่เป็นนาเป็นของโจทก์นอกนั้นยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทนี้แม้โจทก์จะซื้อไว้มีสัญญาซื้อขายก็ดี แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปี จนกระทั่งจำเลยเข้ามาจับจอง เจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัด ก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่าจึงออกใบเหยียบย่ำให้จำเลย แสดงว่าเป็นที่ซึ่งโจทก์ได้ทอดทิ้งไว้จำเลยผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าโจทก์พิพากษายืน

Share