แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฏหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์ สินของเจ้าของกรรมสิทธิไว้ชั่วคราว กล่าว+บทบัญญัติใน ป.พ.พ.ม. 1336 +อยู่ภายในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. นั้น
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลยจากสถาณที่เช่า โดยได้รับมอบหมายยินยอมจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้อยู่เอง
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าอยู่คณะกรรมการอนุญาตไปโดยไม่มีเหตุสมควร
ศาลแขวงธนบุรี สั่งงดสืบพยาน แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯเป็นก.ม.ที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิใว้ชั่วคราว กล่าวคือ บทบัญญัติป.พ.พ.มาตรา ๑๓๓๖ นั้นจะต้องอยูในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ก็ได้มีข้อยกเว้นข้อหนึ่งคือ เมื่อคณะกรรมการได้ใช้ดุลยพินิจเห็นสมควรให้ยินยอมให้ผู้เช่าจำเป็นเข้าอยู่อาศัย ฉนั้นเมื่อคณะกรรมการได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลัก ก.ม.ทั่วไปแล้ว ศาลก็ย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลัก ก.ม.ทั่วไป และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในก.ม.พิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก็ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็จำต้องยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย