คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้ตามเช็คซึ่งจำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืมแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด โจทก์ได้มายื่นคำขอรับชำระหนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามเช็ค หาใช่ประสงค์ขอรับชำระหนี้ในหนี้กู้ยืมไม่ จึงไม่ต้องมีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ศาลชั้นต้นได้สั่งและพิพากษาตามฟ้อง โจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเห็นว่าโจทก์ขอรับชำระหนี้เงินยืม แต่การยืมไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ เช็คไม่ใช่หลักฐานการยืม จึงเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องให้บังคับไม่ได้ โจทก์จะขอรับชำระหนี้รายนี้ไม่ได้ ควรยกคำขอรับชำระหนี้ของโจทก์

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยต้องชำระหนี้ให้โจทก์ตามเช็ค มีคำสั่งให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ตามขอ

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ที่ขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายอาศัยมูลหนี้ตามเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืม โดยเช็คดังกล่าวเป็นเช็คของธนาคารกรุงไทย จำกัด เลขที่ 438941 ลงวันที่ 17 มกราคม 2522 สั่งจ่ายเงิน70,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คแล้ว แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน กรณีจึงมีมูลหนี้ตามเช็คที่จำเลยจะต้องชำระให้โจทก์ ตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการขอรับชำระหนี้ของโจทก์ก็ได้ความว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปแล้วจำเลยได้ออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าไว้ 1 เดือน มอบให้โจทก์เป็นการชำระหนี้เงินกู้ โดยเช็คดังกล่าวเป็นเช็คฉบับเดียวกันกับที่โจทก์อาศัยเป็นมูลหนี้ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย และเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระโจทก์ได้นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงได้ฟ้องจำเลยทั้งคดีอาญาและคดีล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้ตามเช็คดังกล่าว เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด โจทก์จึงมายื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นคดีนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามเช็ค หาใช่ประสงค์ขอรับชำระหนี้ในหนี้กู้ยืมไม่

พิพากษายืน

Share