คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2243/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ โดยบรรยายฟ้องว่า “…เมื่อวันที่ 20มีนาคม 2528 เวลากลางวัน ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค ได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายที่ธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขา 129 ลาดพร้าว เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นแต่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่า โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย..”เช่นนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นวันเดียวกับวันที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์นั้นเองฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิด คือ วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นฟ้องที่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2528 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยได้ร่วมกันออกเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาประตูน้ำลงวันที่ 20 มีนาคม 2528 จำนวนเงิน 100,000 บาท ชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อนำเช็คมาชำระหนี้ต่อให้ผู้เสียหาย ต่อมาวันที่20 มีนาคม 2528 เวลากลางวัน ผู้เสียหายนำไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขา 129 ลาดพร้าวเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินว่า”โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย” ทั้งนี้จำเลยออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คโดยในขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณาผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วให้งดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลล่างทั้งสองเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ปราศจากวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)ไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณา จึงมีปัญหาว่า โจทก์บรรยายฟ้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หรือไม่โจทก์บรรยายว่า “…เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2528 เวลากลางวันผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายเพื่อเบิกเงินที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขา129 ลาดพร้าว เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น ตามวิธีการของธนาคาร แต่ธนาคารดังกล่าวได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยแจ้งว่าโปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย ทั้งนี้ โดยจำเลยได้ออกเช็คดังกล่าวโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯ” ตามคำฟ้องของโจทก์ดังอ้างมานี้ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นวันเดียวกันกับวันที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน คือ วันที่ 20 มีนาคม 2528 นั้นเอง ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดกล่าวคือ มีวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share