คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4161/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีผู้ลักเช็คของโจทก์ไปปลอมลายมือชื่อโจทก์สั่งจ่ายเงิน 100,000 บาท แล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารจำเลยที่ 3 ซึ่งโจทก์มีบัญชีกระแสรายวันอยู่ จำเลยที่ 1 ผู้ช่วยสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 2 ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 3 มีหน้าที่ตรวจลายมือชื่อลูกค้าอยู่เป็นประจำย่อมมีความชำนาญในการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของลูกค้ามากกว่าคนธรรมดา ถ้าใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่โดยละเอียดรอบคอบจะต้องทราบว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อปลอม แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังจึงไม่ทราบและอนุมัติให้จ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เป็นทั้งละเมิดและผิดสัญญาฝากทรัพย์ซึ่งจำเลยทั้งสามต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ แม้จะมีข้อตกลงยกเว้นความรับผิดของจำเลยไว้ตามหนังสือขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็ตาม จำเลยก็จะอ้างมาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 373
หนี้ละเมิดอันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสำคัญคือความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร แม้จำเลยจะมิได้ให้การว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยต่างประมาทเลินเล่อด้วยกัน ศาลกำหนดให้จำเลยรับผิดเพียงกึ่งหนึ่งของค่าเสียหายทั้งหมดได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันที่ธนาคารจำเลยที่ ๓ มีผู้ลักเช็คของโจทก์ไปกรอกข้อความและปลอมลายมือชื่อโจทก์สั่งจ่ายเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีและจำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ ๓ มิได้ตรวจลายมือชื่อในเช็คด้วยความระมัดระวังได้จ่ายเงินให้แก่ผู้นำเช็คมาเบิกเงินแล้วหักเงินออกจากบัญชีโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์ประมาทเลินเล่อทำให้เช็คสูญหายและโจทก์ได้ตกลงกับจำเลยที่ ๓ ไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าเช็คที่ยังมิได้สั่งจ่ายสูญหายด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของโจทก์ และมีผู้ปลอมลายมือชื่อในเช็คนั้น จำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องดอกเบี้ย
โจทก์และจำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มีผู้ปลอมลายมือชื่อโจทก์สั่งจ่ายเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ในเช็คพิพาทแล้วนำไปเบิกเงินที่ธนาคารจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อนุมัติให้จ่ายเงิน ศาลฎีกาเห็นว่าลายมือชื่อปลอมและลายมือชื่อตัวอย่างของโจทก์ที่ให้ไว้แก่จำเลยที่ ๓ แม้ดูโดยผิวเผินจะมีส่วนคล้ายคลึงกัน แต่ถ้าตรวจดูอย่างละเอียดรอบคอบแล้วจะเห็นว่าคุณสมบัติในการเขียนและรูปร่างลักษณะตัวอักษรแตกต่างกัน เมื่อคำนึงว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจลายมือชื่อลูกค้าโดยตรงอยู่ตลอดเวลาจำเลยทั้งสองย่อมมีความชำนาญในการตรวจพิสูจน์ลายมือของลูกค้ามากกว่าคนธรรมดา หากจำเลยทั้งสองได้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยละเอียดรอบคอบตรวจสอบลายมือชื่อตามควรก็จะต้องทราบว่าลายมือชื่อดังกล่าวเป็นลายมือปลอม การที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอจึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในผลของการกระทำละเมิด ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาฝากทรัพย์ ดังนั้น แม้จะมีข้อตกลงยกเว้นความรับผิดของจำเลยตามหนังสือขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็ตาม เมื่อการกระทำของจำเลยในส่วนที่เป็นการผิดสัญญานี้เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจำเลยจะอ้างข้อตกลงดังกล่าวเพื่อปฏิเสธความรับผิดของตนไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๓ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่ามาตรา ๑๐๐๘ มิใช่กฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยคู่สัญญาตกลงกันเป็นพิเศษได้ ข้อตกลงล่วงหน้าจึงมีผลบังคับได้นั้น เห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องลายมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอมและการให้สัตยาบัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงอย่างของโจทก์จำเลยตามหนังสือขอเปิดบัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นคนละกรณีกัน จำเลยทั้งสามจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้ต่อสู้ว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วย การที่ศาลล่างวินิจฉัยให้โจทก์ร่วมรับผิดกับจำเลยจึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า แม้จำเลยจะมิได้ให้การว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตาม แต่ว่าหนี้ละเมิดอันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณข้อสำคัญก็คือว่าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร กรณีนี้โจทก์จำเลยต่างขาดความระมัดระวังด้วยกัน ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามรับผิดต่อโจทก์เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทนั้น ชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share