คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2232/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยท้ากันให้เจ้าพนักงานที่ดินออกไปรังวัดสอบเขตที่ดินเพื่อให้ทราบแนวเขตติดต่อระหว่างที่ดินของโจทก์จำเลยว่าอยู่ตำแหน่งใด โดยถือเอาการรังวัดนี้เป็นยุติ ย่อมแสดงว่าโจทก์จำเลยมอบความไว้วางใจเป็นสิทธิขาดให้เจ้าพนักงานที่ดินสำหรับการรังวัดสอบเขต แม้เจ้าพนักงานที่ดินจะค้นหาหลักฐานการรังวัดที่ดินไม่พบก็จะต้องทำการตรวจสอบหาเขตที่ดินไปตามหลักวิชา จะใช้วิธีรังวัดด้วย”การนำชี้” หาได้ไม่เพราะมิใช่การรังวัด “สอบ” เขตตามที่คู่ความตกลงกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยละเมิดขุดคูประชิดตลอดแนวเขตที่ดินของโจทก์จำเลยทำให้น้ำกัดเซาะที่ดินของโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยกลบคูดังกล่าวแล้วย้ายคูให้ห่างแนวเขตที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยเข้าไปในที่ดินของจำเลยประมาณ 2 เมตร
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขออนุญาตยื่นคำให้การ โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรสาครออกออกไปรังวัดสอบเขตติดต่อระหว่างที่ดินโจทก์และจำเลยว่าอยู่ตำแหน่งใดโดยให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานที่ดินเป็นยุติ เมื่อได้แนวเขตแล้วให้จำเลยถมดินในคูที่จำเลยขุดใหม่นั้นเสียจนกว่าจะพ้นแนวเขตเข้ามาในที่ดินของจำเลยไม่น้อยกว่า 1 เมตร การถมคูจะใช้เวลาไม่เกิน3 ปีนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จำเลยจะไม่ขุดคูคลองหรือร่องน้ำภายในระยะ 1 เมตรจากแนวเขต ถ้าโจทก์จำเลยผิดสัญญายอมให้บังคับคดีทันที ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความเจ้าพนักงานที่ดินออกไปรังวัดและทำแผนที่ส่งศาลชั้นต้นแล้ว โจทก์ไม่ลงลายมือชื่อรับรองแผนที่ จำเลยฝ่ายเดียวที่รับรองแผนที่ศาลชั้นต้นนัดพร้อมโจทก์จำเลย นายวัลลภ สร้องดอกสน ช่างแผนที่ผู้รังวัดมาศาล นายวัลลภฯ แถลงต่อศาลว่าจุดติดต่อระหว่างที่ดินของโจทก์จำเลยได้แก่เส้นสีเขียวด้านทิศเหนือของที่ดินโจทก์ ไม่ใช่เส้นสีแดงตามที่โจทก์นำชี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า “เมื่อกรณีได้ความตามคำแถลงของเจ้าพนักงานที่ดินดังกล่าวแล้ว จึงให้คู่ความปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 29พฤศจิกายน 2527 ต่อไป”
โจทก์อุทธรณ์ว่า ช่างแผนที่มิได้รังวัดสอบแนวเขตที่ดินตามหลักเขต แต่รังวัดตามการนำชี้ของแต่ละฝ่ายซึ่งเป็นการรังวัดที่ไม่ตรงต่อสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้ และเป็นการรังวัดที่ไม่ตรงต่อหลักวิชา ขอให้พิพากษาให้เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรสาครทำการรังวัดตรวจสอบหาแนวเขตที่ดินโจทก์จำเลยเสียใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ลงวันที่29 พฤศจิกายน 2527 ที่ศาลชั้นต้นทำไว้นั้น ข้อ 1 มีความว่า “โจทก์จำเลย ยอมให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรสาครออกไปรังวัดสอบเขตที่ดินโจทก์จำเลยเพื่อให้ทราบแนวเขตติดต่อระหว่างที่โจทก์จำเลยว่าอยู่ตำแหน่งใดโดยถือการรังวัดของเจ้าพนักงานที่ดินเป็นยุติ และโจทก์จำเลยยอมเสียค่าใช้จ่ายในการรังวัดฝ่ายละครึ่ง”ตามสัญญาดังกล่าวพึงเห็นเจตนาของโจทก์จำเลยได้ว่า โจทก์จำเลยได้มอบความไว้วางใจแก่เจ้าพนักงานเป็นการสิทธิขาดสำหรับการ “สอบ”หาแนวเขตระหว่างที่ดินโจทก์จำเลย เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการรังวัด “สอบ” โดยชอบจนทราบตำแหน่งแนวเขตแล้วโจทก์จำเลยยอมรับนับถือผลการ “สอบ” นั้นเป็นการเด็ดขาด แต่เจ้าพนักงานที่ดินก็หาได้รังวัด “สอบ” ตามอำนาจที่ได้รับมอบไม่ กลับรังวัดด้วย”การนำชี้” ของโจทก์จำเลยดังปรากฏ “การนำชี้” ในบันทึกในแผนที่ที่เจ้าพนักงานที่ดินส่งศาลชั้นต้นเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินมีหนังสือนำส่งแผนที่ก็ยังยืนยันถึง “การนำชี้” ดังเดิมอยู่อีกดังปรากฏในหนังสือสารบาญอันดับ 38 ในสำนวนตอนหนึ่งว่า “สำนักงานที่ดินจังหวัดได้ให้ช่างแผนที่ออกไปทำการรังวัดแล้ว ปรากฏว่าช่างฯไม่สามารถตรวจสอบแนวเขตโฉนดของจำเลยได้ เนื่องจากค้นหาหลักฐานการรังวัดเดิมของจำเลยไม่พบ จึงได้ทำการรังวัดตามแนวเขตที่โจทก์จำเลยนำชี้และได้ให้จำเลยตรวจรับรองรูปแผนที่แล้ว ส่วนโจทก์ยังมิได้รับรองรูปแผนที่” ศาลฎีกาเห็นว่า การรังวัดจะถือเอาการนำชี้ของโจทก์จำเลยเป็นประมาณมิได้ เป็นธรรมดาอยู่เองที่ฝ่ายใดนำชี้ฝ่ายนั้นก็ย่อมจะนำชี้ให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนมากที่สุดที่จะทำได้ คำแถลงของช่างแผนที่ในวันนัดพร้อมที่ว่าจุดติดต่อระหว่างที่ดินโจทก์จำเลยคือเส้นสีเขียว ไม่ใช่เส้นสีแดงนั้นเป็นเพียงความเห็นของช่างแผนที่และเป็นความเห็นที่เกิดแต่การนำชี้ มิใช่เกิดแต่การ “สอบ” ตามที่คู่ความตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะฉะนั้น แนวเขตเส้นสีเขียวในแผนที่ที่ช่างแผนที่รังวัดส่งศาลจะถือเป็นแนวเขตที่แน่นอนเป็นยุติหาได้ไม่…
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเมื่อค้นหาหลักฐานการรังวัดที่ดินของจำเลยไม่พบเจ้าพนักงานที่ดินจะต้องตรวจสอบเขตที่ดินตามหลักวิชาเพราะเป็นที่ดินมีโฉนดแล้วนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ให้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเป็นพับ.

Share