คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่เกิดเป็นเหตุการณ์คดีนี้เนื่องจากสาเหตุที่มีการสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยด่าว่าบุตรสาว จ. เท่านั้น อันเป็นเหตุเล็กน้อยไม่น่าจะปองร้ายกันถึงชีวิต และได้ความจากคำเบิกความของ จ.ว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปทาง ร. ในระยะห่างประมาณ 5 ถึง 6 วาหากจำเลยประสงค์จะปองร้ายจ.และร. ถึงชีวิต จำเลยคงเลือกยิงในตำแหน่งซึ่งอาจทำให้ถึงตายได้โดยไม่ยาก การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ร.ในระดับต่ำถูกบริเวณต้นขาและน่องซ้ายของร.ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาให้ จ. และ ร. ได้รับอันตรายแก่กายเท่านั้น จึงฟังได้เพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกาย ร. อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,80, 91, 288, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว และสั่งริบของกลางกับขอให้บวกโทษที่รอไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 630/2533 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวแต่ปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 630/2533 ของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ให้จำคุก 10 ปี และพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนักให้จำคุก 6 เดือน เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุก 10 ปี 6 เดือนคำรับของจำเลยในชั้นพิจารณาและจำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีและพาอาวุธปืนติดตัวลดโทษความผิดฐานพยายามฆ่าหนึ่งในสาม และฐานพาอาวุธปืนติดตัวกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงให้จำคุก 6 ปี 11 เดือน คำขออื่นให้ยก ของกลางริบ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ที่เกิดเป็นเหตุการณ์คดีนี้เนื่องจากสาเหตุที่มีการสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยด่าว่าบุตรสาวนายจรัญเท่านั้น อันเป็นเหตุเล็กน้อยไม่น่าจะปองร้ายกันถึงชีวิต และได้ความจากคำเบิกความของนายจรัญว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปทางนางระเบียบในระยะห่างประมาณ 5 ถึง 6 วา หากจำเลยประสงค์จะปองร้ายนายจรัญและนางระเบียบถึงชีวิต จำเลยคงเลือกยิงในตำแหน่งซึ่งอาจทำให้ถึงตายได้โดยไม่ยาก การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนางระเบียบในระดับต่ำถูกบริเวณต้นขาและน่องซ้ายของนางระเบียบ ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยเจตนาให้นายจรัญและนางระเบียบได้รับอันตรายแก่กายเท่านั้น จึงฟังได้เพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกายนางระเบียบอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ศาลฎีกา จึงไม่เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ในส่วนนี้”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน คำรับของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมกับโทษฐานพาอาวุธปืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว คงจำคุก 1 ปี3 เดือน นอกจากที่แก้แล้วคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share