คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ร่วมของโจทก์ตามคำพิพากษาแล้วไม่ชำระหนี้โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาเช่นนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่จำต้องแจ้งการยึดหรือแจ้งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแก่จำเลยที่ 1 เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการยึดแก่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และเจ้าพนักงานที่ดินตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 แล้วการยึดทรัพย์รายนี้จึงถูกต้องตามกฎหมาย

ย่อยาว

จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีที่ได้ทำไปแล้วทั้งหมด ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกับจำเลยที่ 2 แต่การบังคับคดีตามฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นการบังคับโดยยึดอสังหาริมทรัพย์ คือที่ดินโฉนดที่ 6481 และ 6482 ตำบลท่าถ่าน (ปัจจุบันเป็นตำบลพนม) อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 มาเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา โดยมิได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินใด ๆ ของจำเลยที่ 1 เลย เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่จำต้องแจ้งการยึดหรือแจ้งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแก่จำเลยที่ 1 ดังที่จำเลยฎีกามา เกี่ยวกับหมายบังคับคดีไม่ปรากฏว่าศาลมีคำสั่งให้ส่งสำเนาหมายบังคับคดีให้จำเลย จึงไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะต้องส่งให้ ที่ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้แสดงหมายบังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 ก็ได้ความตามบันทึกการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีฉบับลงวันที่ 22 มีนาคม 2522 ว่า ขณะทำการยึดไม่พบจำเลย จึงย่อมไม่มีทางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะแสดงหมายบังคับคดีต่อจำเลยได้ ปรากฏในท้องสำนวนว่าในการยึดทรัพย์รายนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการยึดแก่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และเจ้าพนักงานที่ดินตามที่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 แล้ว การยึดทรัพย์รายนี้จึงถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ที่จำเลยกล่าวมาว่าการขายทอดตลาดจำเป็นต้องปิดประกาศไว้ ณ ที่ดินที่จะขายทอดตลาดด้วย มิฉะนั้นจำเลยซึ่งอยู่ในที่ดินนั้นย่อมหมดโอกาสทราบและแก้ไขเหตุการณ์ได้ทันท่วงทีนั้น เห็นว่า เมื่อได้ส่งประกาศขายทอดตลาดแจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบแล้ว ก็เป็นการเพียงพอที่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นจะทราบว่าที่ดินของตนแปลงนั้น ๆ จะถูกเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดในวันตามที่ปรากฏในประกาศนั้น หากจำเลยที่ 2 มีเหตุผลหรือวิธีการที่จะแก้ไขไม่ให้ต้องขายทอดตลาดด้วยประการใด ๆ ก็ย่อมแก้ไขได้อยู่แล้ว ที่จำเลยกล่าวมาว่าจำเลยที่ 1 ไม่ทราบการบังคับคดี และขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงเสียสิทธิและไม่มีโอกาสเข้าวางเงินชำระหนี้แทนเพื่อระงับการขายทอดตลาดทรัพย์จำเลยที่ 2 ได้ทันท่วงทีนั้น เห็นว่า จำเลยที่ 1 มีโอกาสที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษามาเป็นเวลากว่า 6 เดือน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1ได้กระทำ การกล่าวเช่นนี้จึงเป็นการกล่าวที่เลื่อนลอยและไร้สาระ”

พิพากษายืน

Share