แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พ.ร.บ.สำรวจ และห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจ และห้ามกักกันข้าว โดยจำเลยตระเตรียมการขนย้ายข้าวสาร ๙๔๔ กระสอบบรรทุกลงเรือยนต์เดินทะเลโตเจริญนาวา เพื่อไปทางทะเล อันเป็นการตระเตรียมเพื่อจะนำข้าวสารออกนอกราชอาณาจักรไปต่างประเทศ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ในระหว่างพิจารณานายสวง โตเจริญ ร้องขอให้ศาลคืนเรือของกลาง โดยอ้างว่าตนไม่รู้เห็นเกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว กับให้ริบเรือของกลาง ฯลฯ
จำเลยและนายสวง ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้คืนเรือของกลางแก่เจ้าของเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า เจ้าของเรือมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดนี้ด้วย
ศาลฎีกาประชุมใหญ่แล้ว มีความเห็นว่า บทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๑๓ ทวิ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๖ เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา ๒๙ จึงส่งความเห็นนั้นไปเพื่อให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา ๑๗๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้ให้คำวินิจฉัยมาตามคำวินิจฉัย ต.๓/๒๔๙๔ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๔๙๔ ว่าบทบัญญัติในมาตรา ๑๓ ทวิ (๑) แห่ง พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ แก้เพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๖ เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์บุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา ๒๙ และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้ จึงใช้บังคับมิได้ ตามความในมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ในข้อที่ไม่ริบเรือนของกลางรายนี้ ให้ยกฎีกาโจทก์