คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุซึ่งถูกเรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (3) เมื่อเกินกำหนดหนึ่งปีไปแล้วนับแต่วันละเมิด จะยกอายุความละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ขึ้นต่อสู้ไม่ได้ เพราะผู้รับประกันต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย มิใช่ร่วมรับผิดในมูลละเมิด

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยที่ ๑ ลูกจ้าง และจำเลยที่ ๒ นายจ้าง ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสองในมูลละเมิด ซึ่งจำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ไปชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย และทำให้โจทก์ที่ ๒ ซึ่งเป็นพนักงานของโจทก์ที่ ๑ ได้รับบาดเจ็บ
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ให้การต่อสู้หลายประการ รวมทั้งปฏิเสธความผิดว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ประมาทและเรียกค่าเสียหายสูงเกินไป
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทธนกิจประกันภัยจำกัด ผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยร่วมให้การต่อสู้และปฏิเสธความรับผิดเช่นเดียวกับจำเลยที่ ๒ และต่อสู้ด้วยว่า จำเลยที่ ๒ เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีให้รับผิดต่อโจทก์เกิน ๑ ปี นับแต่วันละเมิด คดีโจทก์ขาดอายุความ
จำเลยที่ ๑ และจำเลยร่วมขาดนัดพิจารณา แต่จำเลยร่วมมาศาลระหว่างสืบพยานโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ที่ ๑ เป็นเงิน ๑,๖๐๐ บาท แก่โจทก์ที่ ๒ เป็นเงิน ๘,๕๗๖ บาท และให้จำเลยร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ต่อโจทก์ที่ ๒ เฉพาะค่ารักษาพยาบาลและค่าที่ต้องทนทุกข์เวทนาเสื่อมสุขภาพอนามัยเป็นเงิน ๖,๕๗๖ บาท
จำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยร่วมฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ
คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ ๒ ขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุเข้ามาในคดีเพื่อให้ร่วมรับผิดเมื่อเกินกำหนด ๑ ปี นับแต่วันละเมิด จึงมีปัญหาที่ยังต้องวินิจฉัยว่า คดีของโจทก์เฉพาะตัวจำเลยร่วมจะขาดอายุความหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๔๘ เป็นเรื่องใช้สิทธเรียกร้องของผู้ต้องเสียหายในมูลละเมิดซึ่งมีอายุความ ๑ ปี กรณีของจำเลยร่วมเป็นเรื่องจำเลยที่ ๒ ขอให้ศาลเรียกเข้ามาในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๗ (๓) เพื่อการใช้สิทธิไล่เบี้ย เพราะจำเลยร่วมจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย จะนำบทบัญญัติมาตรา ๔๔๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้บังคับไม่ได้
พิพากษายืน

Share