แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดต่อพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 45 วรรคแรกซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดแสดงเครื่องหมายการค้าที่มิได้จดทะเบียนว่าเป็นเครื่องหมายที่จดทะเบียนแล้ว หรือขายหรือเสนอขายสินค้าซึ่งมีเครื่องหมาย ที่ตนรู้อยู่เป็นเท็จเช่นนี้ ต้องระวางโทษ ฯลฯ” เป็นความผิดต่อรัฐ โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จำเลยเลียนแบบและผลิตสินค้านั้น ออกขายหรือเสนอขาย มิได้เสียหายเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในความผิดข้อหานี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เครื่องการค้า “ไล้ทแมน” (Light Man) และรูปกระเป๋าหลังกางเกงยีนรูปโค้งคู่สองชั้นซึ่งมีปลายของส่วนโค้งชนกันกับคำภาษาอังกฤษอยู่ด้วย และยังเป็นเจ้าของแถบผ้าสีหรือกระดาษเล็ก ๆ ซึ่งติดอยู่บนด้านซ้ายของรูปกระเป๋าหลังขวา ซึ่งมีชื่ออ่านว่า “ไล้ทแทน” ด้วย จำเลยบังอาจผลิตและจำหน่ายกางเกงยีนยี่ห้อ “สตีเวนส์” โดยจำเลยเลียบแบบรูปเครื่องหมายการค้ารูปโค้งคู่สองชั้น ซึ่งมีปลายส่วนโค้งชนกันกับแถบผ้าสีเล็ก ๆ ติดอยู่บนด้านซ้าย ของรูปกระเป๋าหลังขวาของโจทก์ทั้งสองแล้วไปใช้กับกระเป๋าหลังกางเกงยีนของจำเลย และนำออกจำหน่าย แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าและสินค้าของโจทก์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๒ (๑), ๒๗๔, ๙๑ พระราชบัญญัติเครื่องหมายค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตรา ๔๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๒ (๑) , ๒๗๔ พระราชบัญญัติเครื่องหมายค้า มาตรา ๔๕ รวม ๓ กรรม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๔๕ วรรคแรกบัญญัติว่า “ผู้ใดแสดงเครื่องหมายการค้าที่มิได้จดทะเบียนว่าเป็นเครื่องหมายที่จดทะเบียนแล้ว หรือขายหรือเสนอขายสินค้าซึ่งมีเครื่องหมายที่ตนรู้อยู่ว่า เป็นเท็จเช่นว่านี้ ต้องระวางโทษ ฯลฯ” ศาลฎีกาเห็นว่าทางราชการมุ่งหมายจะควบคุมเครื่องหมายการค้าจึงได้บทบัญญัติมาตรานี้ไว้ เพื่อลงโทษผู้ฝ่าฝืนไว้โดยเฉพาะและถือว่าเป็นความผิดต่อรัฐ โจทก์ทั้งสองอ้างว่าเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ จำเลยเลียนแบบและผลิตสินค้านั้นออกขายหรือเสนอขาย โจทก์ทั้งสองมิได้ เสียหายเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลยตามฟ้อง จึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในความผิดข้อหานี้ต่อศาล และฟังข้อเท็จจริงว่ารูปรอยประดิษฐ์ ที่กระเป๋าหลังกางเกงยีนที่จำเลยผลิตแตกต่างกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์และรูปกระเป๋าหลังกางเกงยีนที่โจทก์ผลิตการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด
พิพากษายืน