คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการยึดและการขายทอดตลาดเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสองแล้ว โดยมิได้มีคำร้องขอขยายเวลาตามมาตรา 23มาด้วย ปัญหาว่าควรขยายเวลาแก่จำเลยหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยจะยกขึ้นมาในชั้นศาลสูงเพื่อให้ขยายเวลาแก่จำเลยหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินซึ่งมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองและนำออกประกาศขายทอดตลาด ต่อมาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทอดตลาดในราคา 180,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยซึ่งมีราคาประมาณ 400,000 บาท เกินกว่าที่จำเป็นแก่การบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยต่ำกว่าราคาตามความเป็นจริงและต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดิน เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 284เป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ เพื่อความยุติธรรม ขอให้เพิกถอนการยึดและเพิกถอนการขายทอดตลาดหรือขอให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการยึดและการขายทอดตลาด เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองแล้วโดยมิได้มีคำร้องขอขยายเวลาตามมาตรา 23 มาด้วย ปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่าควรขยายเวลาแก่จำเลยหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยจึงจะหยิบยกขึ้นมาในชั้นศาลสูงเพื่อให้ขยายเวลาแก่จำเลยหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share