แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ดำเนินการทอดตลาดได้หยุดการขายทอดตลาดไว้เพื่อรอการอนุมัติให้ขายจากรองอธิบดีกรมบังคับคดีเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมบังคับคดีอันเกี่ยวกับการขายทอดตลาด หาได้ปฏิบัติโดยมิชอบแต่อย่างใดไม่ และในระหว่าง ที่ ยังไม่มีการตกลงขายด้วยการเคาะไม้ ผู้สู้ราคาจึงอาจจะถอนคำสู้ราคาหรือเสนอราคาให้สูงขึ้นต่อไปได้ เพราะการขายทอดตลาดนั้นยังไม่บริบูรณ์โดยเป็นการพักไว้ชั่วคราว เมื่อผู้สู้ราคาไว้เดิม เสนอราคาสูงขึ้นก็ได้มีการขานราคาอีกครั้งหนึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้อื่น เข้า สู้ราคาก่อนการเคาะไม้แสดงความตกลง จึงเป็นการขายทอดตลาด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว หาใช่ผู้สู้ราคาเสนอเพิ่มราคาโดยลำพัง โดย ไม่มีการสู้ราคาไม่ เมื่อการขายทอดตลาดไม่มีพฤติการณ์อื่นใดที่ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการสมรู้กันกดราคา หรือกระทำการโดยไม่สุจริต การขายทอดตลาดจึงชอบแล้วข้ออ้างราคาต่ำไม่ใช่เหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ที่จำเลยฎีกาว่า การขายทอดตลาดมีผู้เสนอราคาผู้เดียว และว่าการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องขายให้ได้ราคาเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 68034, 68035 แขวงบางนา เขตพระโขนง กรุงเทพมหานครพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยแก่ผู้ให้ราคาสูงสุด 560,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า ราคาที่ขายต่ำไป และการขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ผู้สู้ราคาสูงสุดเพิ่มราคาโดยลำพังอันไม่ใช่เป็นการสู้ราคาในการขายทอดตลาด ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดไปโดยชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงซึ่งไม่โต้แย้งกันรับฟังได้ว่าโจทก์ได้นำยึดที่ดินของจำเลยจำนวน 2 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามคำร้องเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษา ทรัพย์สินของจำเลยดังกล่าวนี้สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดีประเมินราคาไว้เป็นเงิน1,054,800 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้นำออกขายทอดตลาดเมื่อวันที่30 กรกฎาคม 2530 มีผู้สู้ราคา 2 ราย ให้ราคาสูงสุด 470,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาที่มีผู้เสนอไม่คุ้มกับหนี้ที่ค้างชำระ ให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่ในวันที่ 28 กันยายน 2530เป็นครั้งที่สอง มีผู้สู้ราคา 3-4 ราย ให้ราคาสูงสุด 555,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาที่เสนอไม่คุ้มกับหนี้ที่ค้างชำระอีก ให้ประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่สามในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2530ในครั้งนี้มีผู้สู้ราคา 2 ราย ผู้สู้ราคารายหนึ่งให้ราคาสูงสุด500,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 และได้หยุดการขายไว้แล้วเรียกให้โจทก์จำเลยพร้อมกับผู้สู้ราคาสูงสุดเข้าไปสอบถาม โจทก์ไม่คัดค้านการขาย แต่จำเลยคัดค้านอ้างว่าผู้สู้ราคาเสนอราคาต่ำไป ส่วนผู้สู้ราคาสูงสุดขอเพิ่มราคาขึ้นเป็นเงิน 555,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำรายงานการขายทรัพย์เสนอต่อรองอธิบดีกรมบังคับคดีพิจารณาอนุมัติให้ขาย ระหว่างนั้นผู้สู้ราคาสูงสุดได้เสนอราคาเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็นเงิน 560,000 บาท รองอธิบดีกรมบังคับคดีจึงอนุมัติให้ขายในราคาดังกล่าว ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขานราคาโดยเปิดเผยอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่มีผู้คัดค้าน จึงเคาะไม้เป็นครั้งที่ 3ให้ผู้สู้ราคาซื้อไป
คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ข้อที่จำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้หยุดการขายทอดตลาดแล้วเรียกผู้สู้ราคาสูงสุดเข้าไปสอบถามเพียงลำพัง ผู้สู้ราคาสูงสุดจึงเสนอเพิ่มราคาให้ไม่ใช่เป็นการสู้ราคาตามวิธีการขายทอดตลาดนั้นพิเคราะห์แล้วได้ความว่า หลังจากที่เจ้าพนักงานบังคับคดีหยุดการขายทอดตลาดแล้วทำรายงานการขายทอดตลาดเสนอรองอธิบดีกรมบังคับคดีอนุมัตินั้น ผู้สู้ราคาสูงสุดได้เสนอเพิ่มราคาเป็น 560,000 บาทนายอมรศักดิ์ นพรัมภา รองอธิบดีกรมบังคับคดีซึ่งเป็นพยานโจทก์เบิกความว่า เหตุที่อนุมัติให้ขายทรัพย์รายนี้ไปในราคา 560,000 บาทเนื่องจากมีการขายมาแล้วสองครั้ง การขายทั้งสองครั้งจำเลยได้คัดค้านไว้จึงได้กำชับให้จำเลยหาผู้มาสู้ราคาให้ได้ตามที่ต้องการมิฉะนั้นจะพิจารณาให้ขายไปในราคาที่สมควร เมื่อการขายทอดตลาดในครั้งที่สามไม่ปรากฏว่ามีผู้สู้ราคาสูงกว่าราคาที่เสนอไว้แต่เดิมประกอบกับเห็นว่าเป็นราคาที่สมควร จึงอนุมัติให้ขาย นอกจากนี้นางสาวเสริมศรี ผ่องศรี เจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งเป็นพยานของจำเลยก็เบิกความว่า หลังจากรองอธิบดีกรมบังคับคดีอนุมัติให้ขายในราคา560,000 บาท แล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ดำเนินการทอดตลาดได้ทำการขานราคาดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อไม่มีผู้คัดค้าน จึงเคาะไม้เป็นครั้งที่ 3 ขายไปในราคาดังกล่าว อันเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของกรมบังคับคดีโดยสมบูรณ์ ข้อเท็จจริงได้ความมาดังกล่าวนี้จึงฟังได้ว่าการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ดำเนินการทอดตลาดได้หยุดการขายทอดตลาดไว้เพื่อรอการอนุมัติให้ขายจากรองอธิบดีกรมบังคับคดี เป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมบังคับคดีอันเกี่ยวกับการขายทอดตลาด หาได้ปฏิบัติโดยมิชอบแต่อย่างใดไม่ดังนั้น ในระหว่างที่ยังไม่มีการตกลงด้วยการเคาะไม้ ผู้สู้ราคาจึงอาจจะถอนคำสู้ราคาหรือเสนอราคาให้สูงขึ้นต่อไปได้ เพราะการขายทอดตลาดนั้นยังไม่บริบูรณ์โดยเป็นการพักไว้ชั่วคราว เมื่อผู้สู้ราคาไว้เดิมเสนอราคาสูงขึ้นก็ได้มีการขานราคาอีกครั้งหนึ่งเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคาก่อนการเคาะไม้แสดงความตกลงจึงเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว หาใช่ผู้สู้ราคาเสนอเพิ่มราคาโดยลำพังโดยไม่มีการสู้ราคาดังที่อ้างไม่ ส่วนที่จำเลยอ้างว่า การขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลางเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าเมื่อการขายทอดตลาดไม่มีพฤติการณ์อื่นใดที่ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการสมรู้กันกดราคาหรือกระทำการโดยไม่สุจริต การขายทอดตลาดนั้นจึงชอบแล้ว ข้ออ้างราคาต่ำไม่ใช่เหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้และที่จำเลยฎีกาว่า การขายทอดตลาดมีผู้เสนอราคาผู้เดียว และว่าการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องขายให้ได้ราคาเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้โจทก์นั้นเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวจำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน.