คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่า ยังไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 จำต้องฟังพยานหลักฐานของคู่ความต่อไปอีก ให้ยกคำร้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หาใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในระหว่างพิจารณา

ย่อยาว

คดีนี้ รวมการพิจารณากับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๑๓๗/๒๕๑๒ ระหว่างนายนรินทร์ อัมพุช โจทก์ นายสงวน กิ่งวาที จำเลย เรื่องมรดกของศาลจังหวัดนครสวรรค์ โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องจำเลยคนเดียวกันขอศาลพิพากษาบังคับจำเลยแบ่งทรัพย์สินกองมรดกของนางบุญช่วยผู้ตายที่จำเลยครอบครองอยู่
จำเลยให้การยกข้อต่อสู้หลายประการ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้โจทก์ทั้งสองสำนวนนำสืบก่อน
ระหว่างพิจารณา พันโทวิรัชโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ยังไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔ จำต้องฟังพยานหลักฐานของคู่ความต่อไปอีก ให้ยกคำร้อง
พันโทวิรัช โจทก์ อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นไม่ใช่คำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตามวรรคท้ายแห่งมาตรา ๒๔ ที่จะอนุญาตให้อุทธรณ์ฎีกาได้ คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่จะพึงอนุญาตโดยเฉพาะในขณะนี้มิได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๖ ให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์
พันโทวิรัช โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบแล้วโจทก์อ้างว่าข้อเท็จจริงนั้นรับฟังได้แน่ชัดแล้ว ขอให้ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบมานั้น มาวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายก่อนที่จะดำเนินการพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่ายังไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔ จำต้องฟังพยานหลักฐานของคู่ความต่อไปอีก ให้ยกคำร้อง ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ขอให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งศาลยังมิอาจวินิจฉัยให้ได้ มิใช่คำร้องที่ยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น หากเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเท่านั้น โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาไม่ได้ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share