แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เพียงให้งดหรือลดหย่อนเบี้ยปรับโดยอ้างว่ามิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีโดยมิได้คัดค้านการประเมินว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าหรือการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด ดังนี้ปัญหาที่ว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าได้ยุติไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเดือนมกราคม 2519 โจทก์ขายที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของโจทก์หนึ่งแปลงเพื่อชำระหนี้และพยุงฐานะของโจทก์เมื่อได้รับเงินค่าที่ดินงวดแรกมาโจทก์ได้นำเงินไปเสียภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลให้แก่เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 11,915 บาท ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2519 เจ้าหน้าที่กองภาษีการค้าของจำเลยที่ 1 ได้แจ้งการประเมินภาษีการค้าเรียกเก็บเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนเงิน 222,367 บาท โจทก์ได้อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แล้ว ต่อมาโจทก์ได้รับแจ้งการวินิจฉัยอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้าเงินเพิ่มและเบี้ยปรับรวมเป็นเงิน 147,170.50 บาทโจทก์มิได้ซื้อที่ดินมาขายเป็นทางค้าหากำไร ทั้งการขายที่ดินของโจทก์มิใช่ค่าตอบแทนหรือประโยชน์ใด ๆ ที่โจทก์ได้รับหรือพึงได้รับเนื่องจากการประกอบการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าจากการขายที่ดินดังกล่าว ขอให้พิพากษาว่าโจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้า เงินเพิ่มเบี้ยปรับและภาษีบำรุงเทศบาล ให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กับให้สั่งคืนเงินภาษีที่โจทก์ชำระไปแล้ว
จำเลยให้การว่า ในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านว่าโจทก์มิใช่ผู้ประกอบการค้าอสังหาริมทรัพย์หรือคัดค้านว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินไม่ถูกต้อง คงอุทธรณ์เพียงขอให้งดหรือลดเบี้ยปรับซึ่งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก็ได้ลดเบี้ยปรับให้แล้ว ถือได้ว่าการประเมินถูกต้องและเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เพียงขอให้งดหรือลดหย่อนเบี้ยปรับ มิได้คัดค้านการประเมินว่าโจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้าโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1259/2520 ระหว่างบริษัทกรรณสูตร จำกัด โจทก์ กรมสรรพากร กับพวก จำเลย ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30 เพียงให้งดหรือลดหย่อนเบี้ยปรับโดยอ้างเหตุผลว่า โจทก์คำนวณภาษีการค้าผิดพลาดเพราะความพลั้งเผลอมิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โจทก์มิได้คัดค้านการประเมินว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าหรือการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้า ก็ต้องถือว่าโจทก์ไม่ติดใจการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินในเรื่องนี้แล้ว ทั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก็วินิจฉัยเฉพาะเรื่องลดเบี้ยปรับและภาษีบำรุงเทศบาลให้เท่านั้น ปัญหาที่ว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าได้ยุติไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นอุทธรณ์ต่อศาล ขอให้สั่งเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์หาได้ไม่ ทั้งนี้เทียบเคียงได้กับคำพิพากษา ฎีกาที่ศาลล่างอ้างมาศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน