คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2183/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นหญิง ไม่ปรากฏว่าเคยได้ รับโทษจำคุกมาก่อน และได้ รับ สารภาพมาตั้งแต่ ชั้นจับกุมและสอบสวน ทั้งการกระทำผิดของจำเลยก็ไม่ใช่การพนันรายใหญ่ ดังนี้ มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยได้ ตาม ป.อ. มาตรา 56.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78แล้วให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 3 เดือน และปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 46โทษปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางและให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับอีกกึ่งหนึ่งของค่าปรับด้วย
โจทก์อุทธรณ์ ขอไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 2 เดือน โดยไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษ และไม่ต้องจ่ายสินบนนำจับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า จำเลยเป็นหญิง ไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และได้รับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นจับกุมและสอบสวน ทั้งการกระทำผิดของจำเลยก็ไม่ใช่การพนันรายใหญ่ จึงเห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56…”
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วให้จำคุก 2 เดือนปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โทษปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share