คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2176/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีอาญาซึ่งมิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความกันได้ แม้ไม่มีการร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน ก็ มีอำนาจสอบสวนได้โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคหนึ่ง เมื่อทำการสืบสวน หรือสอบสวนไปทั้งหมดหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนได้แล้ว พนักงานสอบสวนไม่จัดให้มีการร้องทุกข์ตามระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 123,124,125 ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้การสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้นเสียไป พนักงานอัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 297 ริบของกลาง จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณา นางทองชื่น นาคประเสริฐผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 297ให้จำคุกคนละ 3 ปี จำเลยที่ 1 นำสืบรับว่าจำเลยที่ 1 ได้ใช้ไขควงแทนผู้เสียหายจริง แต่ต่อสู้ว่ากระทำเพื่อป้องกัน จำเลยที่ 2รับว่าเข้าไปต่อสู้ในที่เกิดเหตุ คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 2 ปี ริบไขควงของกลาง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อ 2(1) ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยทั้งสองฎีกาในปัญหานี้ว่า เมื่อเกิดเหตุแล้วโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ได้ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจสิบเอกรวม นาคประเสริฐ สามีของโจทก์ร่วมเป็นผู้ที่ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจโดยไม่ปรากฏว่า โจทก์ร่วมได้มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ และเมื่อพนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ไปทั้งหมดหรือแต่ส่วนใดส่วนหนึ่งแล้ว ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนจัดให้มีการร้องทุกข์ตามระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 123, 124 ซึ่งไม่ชอบด้วยมาตรา 124 ทำให้ผลแห่งการสอบสวนคดีนี้เสียไปทั้งหมด เท่ากับมิได้มีการสอบสวนความผิดนั้นมาก่อนพนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ตามมาตรา 120 นั้นศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาซึ่งมิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ แม้จะฟังว่าข้อเท็จจริงเป็นดังฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่า ก่อนทำการสอบสวนโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์หรือมอบอำนาจให้สิบเอกรวมสามีของโจทก์ร่วมไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจพนักงานสอบสวนก็มีอำนาจทำการสอบสวนคดีนี้ได้โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคหนึ่งและเมื่อพนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการสอบสวนคดีนี้ได้โดยชอบดังกล่าว แม้หากจะฟังว่าข้อเท็จจริงเป็นดังฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่า เมื่อทำการสืบสวนหรือสอบสวนคดีนี้ไปทั้งหมดหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดแล้ว พนักงานสอบสวนไม่ได้จัดการให้มีคำร้องทุกข์ตามระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 123, 124, 125 ก็เห็นว่าหามีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดบัญญัติให้ผลแห่งการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนได้กระทำไปโดยชอบดังกล่าวแล้วเสียไป จึงต้องถือว่าคดีนี้ได้มีการสอบสวนในความผิดตามคำฟ้องของโจทก์แล้วพนักงานอัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้”
พิพากษายืน

Share