คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใด และโจทก์ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้างใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน คงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและกรมธนารักษ์เท่านั้นส่วนการก่อสร้าง อาคารพาณิชย์และตลาดสดจะได้มีการตกลงทำสัญญากันอีกต่างหาก.
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้วเมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้อง แต่โจทก์มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไร และโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์ให้ติดต่อประสานงานกับจังหวัดหนองคายและกรมธนารักษ์ขออนุมัติสร้างอาคารพาณิชย์ โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และจำเลยตอบแทนโดยให้โจทก์เป็นผู้ทำการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จำเลยผิดสัญญาขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 1,554,623 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินการจริง ส่วนการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดจำเลยที่ 1 เพียงแต่แสดงความจำนงว่า ถ้ากรมธนารักษ์อนุญาตแล้วจำเลยที่ 1 จะว่าจ้างโจทก์เป็นผู้ก่อสร้าง มิได้เป็นคำเสนอที่จะทำสัญญาก่อสร้างกับโจทก์แต่อย่างใด โจทก์และจำเลยที่ 1 จึงไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน ต่อมาจำเลยที่ 2 เห็นว่า การที่จำเลยที่ 1มอบอำนาจให้โจทก์ทำการก่อสร้างเป็นการไม่ชอบ เนื่องจากผิดเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ เพราะต้องกระทำโดยวิธีประมูลและต้องให้กรมธนารักษ์เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการโอนสิทธิการปลูกสร้างให้บุคคลอื่นด้วย จำเลยที่ 2 จึงบอกเลิกการมอบอำนาจแก่โจทก์ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อกับกรมธนารักษ์ไม่เกิน 10,000 บาท ค่าจ้างเขียนแบบแปลนไม่เกิน 20,000 บาท ถ้าโจทก์ดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนของกรมธนารักษ์ โจทก์จะต้องลงทุนเป็นเงิน 9,366,220 บาทแต่จำเลยที่ 1 ประกวดราคาและห้างหุ้นส่วนจำกัดกตัญญูการเคหะเสนอราคาเพียง 9,300,000 บาท โจทก์จะต้องขาดทุนถึง 66,220 บาทที่โจทก์ว่าเสียหายจึงไม่เป็นความจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินส่วนที่โจทก์ใช้ไปและนับว่าเป็นความจำเป็น มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ 40,000 บาทค่าจ้างออกแบบแปลน 50,000 บาท รวม 90,000 บาท กับดอกเบี้ย คำขออื่นและคำฟ้องที่ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 1ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์โดยมีข้อความสำคัญว่า จำเลยที่ 1 มอบหมายให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลยที่ 1 ในที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดสดสุขาภิบาลท่าบ่อเช่าอาคารอยู่แล้ว และให้มีอำนาจดำเนินการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการเสนอขออนุมัติแบบแปลนแผนผังการวางเงินมัดจำและการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดสุขาภิบาลท่าบ่อกับจังหวัดหนองคายและกรมธนารักษ์แทนจำเลยที่ 1 ต่อไป โจทก์ได้จัดทำแบบแปลนและดำเนินการติดต่อประสานงานขออนุมัติต่อกรมธนารักษ์จนกรมธนารักษ์อนุมัติตามแบบแปลนของกรมธนารักษ์และจังหวัดหนองคายแจ้งให้จำเลยที่ 1 ก่อสร้างอาคารได้ ต่อมาจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้บอกเลิกการมอบอำนาจแก่โจทก์อ้างว่า กรมธนารักษ์กำหนดเงื่อนไขให้ทำการก่อสร้างโดยวิธีประมูล และต้องให้กรมธนารักษ์เป็นผู้พิจารณาและอนุมัติการโอนสิทธิการปลูกสร้างให้บุคคลอื่นด้วยคงมีปัญหาในชั้นฎีกาว่า ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ที่ให้โจทก์เป็นผู้ก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลยที่ 1 ใช้บังคับได้หรือไม่ การที่จำเลยที่ 1 บอกเลิกการมอบอำนาจแก่โจทก์จำเลยที่ 1 จะต้องชดใช้ค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์เพียงใดหรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามหนังสือมอบอำนาจที่จำเลยที่ 1มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมาย จ.3 มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใดและโจทก์ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้าง ใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนคงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลนแผนผัง การวางเงินมัดจำกับจังหวัดหนองคายและกรมธนารักษ์เท่านั้น ส่วนการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดสุขาภิบาลท่าบ่อน่าจะได้มีการตกลงทำสัญญากันอีกต่างหาก แม้ในหนังสือมอบอำนาจจะมีข้อความว่า จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดด้วยแต่เมื่อมิได้มีข้อกำหนดว่า เมื่อโจทก์ทำการก่อสร้างแล้วโจทก์จะได้รับผลประโยชน์อะไรเป็นการตอบแทน โจทก์จะได้ค่าก่อสร้างจากจำเลยที่ 1 เป็นจำนวนเท่าใดหรือโจทก์จะไปเรียกค่าก่อสร้างเอาจากผู้เข้ามาใช้อาคารดังกล่าวเท่าใดก็มิได้ระบุไว้ให้ชัดแจ้งและที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องข้อ 6(3) (4) (5) และ (6) ว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออก โจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้อง โจทก์ก็มิได้บรรยายมาว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยที่ 1 โดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 มิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไร และโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไรโจทก์จึงขอให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าขาดประโยชน์ให้โจทก์ไม่ได้…”
พิพากษายืน

Share