แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
คดีนี้โจทย์ฟ้องกล่าวโทษจำเลยว่า  เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน  จำเลยได้สมคบกันใช้สาตราวุธฟันแลตีนายทุ่มมีบาดแผล ๑๑ แห่งถึงสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๕๖ ฯ
นายกรับ นายนุ่มจำเลยให้การว่า  ในวันนั้นจำเลยเดิรไปพบนายทุ่ม  นายยกเล่นโปที่บ้านนายสง นายช่วย  จำเลยห้ามนายทุ่ม ๆ ไม่ยอมเลิก  แล้วนายทุ่ม นายยกกลับทำร้ายนายกรับ ๆ จึงได้ทำโดยต่อสู้ป้องกันตัว  แต่นายนุ่มจำเลยปฏิเสธว่ามิได้กระทำร้ายนายทุ่ม ฯ
นายทุ้ง นายคงจำเลยให้การปฏิเสธข้อหาอ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลมณฑนครศรีธรรมราชพิจารณาได้ความว่า  นายทุ่ม นายยกฝ่ายหนึ่ง  นายตุ้ง นายกรรับ นายนุ่ม นายคงฝ่ายหนึ่งต่างฝ่ายต่างวิวาททำร้ายซึ่งกันแลกันจนนายทุ่มมีบาดเจ็บรวม ๑๑ แผล เปนบาดแผลถึงสาหัส โดยนายตุ้งจำเลยเปนผู้ฟันนายทุ่ม  แต่นายกรับ นายนุ่ม นายคงเปนคนดีนายทุ่ม พิพากษาว่านายตุ้ง นายกรับ นายนุ่ม นายคงมีผิดฐานทำร้ายร่างกาย  นายทุ่มมีบาดแผลสาหัส  ต้องด้วยกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๕๖ ข้อ ๖-๗-๘ ให้จำคุกนายตุ้ง ๓ ปี นายกรับ นายนุ่มนายคงคนละ ๒ ปี ฯ
จำเลยทั้ง ๔ คนที่ต้องโทษอุทธรณ  ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า  กรณีวิวาทรายนี้คงฟังได้แต่ว่า  นายกรับกับนายทุ่ง ๒ คนนี้ต่างทำร้ายแก่กัน  ซึ่งมีบาดแผลประจักษ์แจ้งอยู่แล้ว  แลได้เกิดทำร้ายกันที่น่าเรือนนายอิน  ทั้งมีนางเอียดภรรยานายดินให้การว่า  ได้เห็นแต่นายกรับกับนายทุ่มต่างทำร้ายกัน ๒ คนเท่านั้น  จะฟังว่าจำเลยนอกจากนายกรับได้ทำร้ายนายทุ่มด้วยมิได้  จึงพิพากษาให้แก้คำตัดสินศาลมณฑล  ให้ปล่อยตัวนายตุ้ง นายคง นายนุ่มจำเลยหลุดพ้นไป ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา  คัดค้านในข้อที่ศาลอุทธรณปล่อยตัวนายตุ้ง นายนุ่ม นายคงไปนั้น  โดยอ้างว่าโจทย์มีพยานหลักฐานว่าคน ๓ คนนี้ได้ทำร้ายนายทุ่มด้วย ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ประชุมปฤกษาเห็นว่า  คดีนี้โจทย์มีพยาน คือ นายทุ่ม นายคลี่ นางจิก นายสง นายเลื่อนได้เห็น นายตุ้งแทงนายทุ่ม ทั้งมีคำนายไข่ นายเกงเห็นนายตุ้งถือมีด นายตุ้งแทงนายทุ่ม  ทั้งมีทำนายไข่ นายเกงเห็นนายตุงถือมีดวิ่งหนีไปจากที่นั้นเปนข้อประกอบอีกด้วย แม้นางเอียดภรรยานายอินจะให้การว่า  ได้เห็นแต่นายทุ่มกับนายกรับต่างทำร้ายกันแต่เพียง ๒ คนเท่านั้นก็ดี  นางเอียดพยานผู้นี้ได้ออกไปดูในภายหลัง  ไม่สามารถจะเห็นผู้ที่กระทำร้ายได้ตลอดไป  ทั้งปรากฎว่าได้เกิดการกระทำร้ายกันถึง ๒ ตอน  โดยเหตุนี้เห็นว่าที่ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษยกเอาคำนางเอียดพยานจำเลยปากเดียวมาลบล้างพยานโจทย์ทั้งหมดนั้นยังผิดอยู่  เมื่อเปนดังนี้จึงฟังตามคำพยานโจทย์ที่ปรากฎชัดเจนว่า  นายตุ้งกับนายกรับได้ช่วยกันติแลแทงนายทุ่มมีบาดเจ็บถึงสาหัส  ส่วนนายนุ่ม นายคง จำเลยนั้นจะฟังว่าได้ร่วมมือกระทำร้ายนายทุ่มด้วยยังไม่ได้  โดยเหตุนี้จึงพิพากษาแก้คำตัดสินศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ  ให้จำคุกนายตุ้งจำเลย ๓ ปี  ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๕๖ นอกจากที่แก้ไขนี้คงยืนตามคำตัดสินศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ ฯ
