คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่เป็นที่ดินที่อยู่นอกเขตที่ดินโฉนด ที่ 2802 ของโจทก์ ซึ่ง โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง แต่ โจทก์กลับฎีกาว่าที่ดินโฉนด ที่ 2802 ของโจทก์ติดต่อ เป็นผืนเดียว กับที่ดินเลขที่ 27 ซึ่ง โจทก์เป็นผู้ครอบครองฎีกาของโจทก์จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น มิใช่เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น.

ย่อยาว

คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลสั่งพิจารณาและพิพากษารวมกันเพื่อความสะดวกให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 1 ในสำนวนที่สองว่าจำเลยที่ 2 ในสำนวนที่สามว่า จำเลยที่ 3 และจำเลยร่วมในสำนวนที่ 3ว่า จำเลยที่ 4 โจทก์ฟ้องทั้งสามสำนวนว่า โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยและบริวารอยู่อาศัยในที่ดินของโจทก์ต่อไป จึงได้บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวออกไปจากที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยและบริวารเพิกเฉยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหากโจทก์นำที่ดินดังกล่าวไปให้คนเช่าจะได้ค่าเช่าเดือนละ 200 บาทต่อหนึ่งหลังเป็นอย่างต่ำ ขอให้บังคับจำเลยพร้อมด้วยบริวารขนย้ายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์และส่งมอบที่ดินคืนให้โจทก์ ให้จำเลยแต่ละสำนวนชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นรายเดือน ๆ ละ 200 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยทั้งสามสำนวนให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ที่ดินที่โจทก์กล่าวอ้างความจริงเป็นของจำเลย โดยจำเลยที่ 1 ซื้อมาจากนายจวงหรือสมบูรณ์ แพรกนัททีหรือแพรกนที บุตรนางชม นายเลี้ยงแพรกนัทที มาประมาณ 12 ปี จำเลยที่ 2 ได้รับมรดกจากนายเลี้ยงนางชม บิดามารดาและได้ครอบครองมา 26 ปี จำเลยที่ 3 อาศัยสิทธิปลูกบ้านในที่ดินของจำเลยที่ 4 ผู้เป็นแม่ยาย จำเลยที่ 4 ได้ที่ดินที่จำเลยที่ 3 ปลูกบ้านมาจากบิดามารดาและได้ครอบครองมาประมาณ 47 ปีขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสามสำนวน
โจทก์ทั้งสิบหกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสิบหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าที่ดินโฉนดที่ 2802 ของโจทก์ติดต่อเป็นผืนเดียวกับที่ดินเลขที่ 27 แม้ที่ดินเลขที่ 27จะเป็นที่ดินนอกโฉนดของโจทก์ก็ตาม แต่ก็เป็นที่ดินที่โจทก์เป็นผู้ครอบครองมิใช่เป็นที่ดินว่างเปล่าที่โจทก์ไม่ได้ครอบครองดังจำเลยอ้างนั้น เห็นว่า คดีทั้งสามสำนวนนี้โจทก์บรรยายฟ้องทำนองเดียวกันว่า โจทก์ทั้ง 16 คน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 2802 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครจำเลยได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินบางส่วนของที่ดินดังกล่าวของโจทก์โดยอาศัยสิทธิสืบทอดมาจากผู้อื่นซึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์มาก่อน ขอให้ขับไล่ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่เป็นที่ดินที่อยู่นอกเขตที่ดินโฉนดที่ 2802 ของโจทก์ซึ่งโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง แล้วจำเลยเข้ามาอาศัยปลูกบ้านฎีกาของโจทก์จึงเป็นเรื่องนอกฟ้อง นอกประเด็น มิใช่เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายกฎีกาโจทก์.

Share