คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีแพ่ง จำเลยเพิ่งยื่นระบุพยานจำเลยเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วเพราะความพลั้งเผลอเข้าใจผิด แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นเอกสารเพื่ออ้างเป็นพยานต่อศาลไว้ 13 ฉบับ ศาลได้เรียกค่าอ้างจากจำเลยไว้แล้วทั้งจำเลยก็ได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ไว้ด้วยแล้ว เช่นนี้เพื่อความยุติธรรมควรอนุญาตให้จำเลยอ้างตนเองเบิกความอธิบายเอกสารที่อ้างนี้และเบิกความแก้หรือหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า กู้เงินจำเลย แล้วมอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยบัดนี้โจทก์ขอไถ่ จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยรับเงินกู้แล้วคืนนาแก่โจทก์

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์กู้เงินจำเลยไปรวม 2 ครั้ง แล้วยกนาให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย

โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน สืบพยานโจทก์แล้วนัดสืบพยานจำเลยปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานโดยอ้างว่าเพราะความพลั้งเผลอเข้าใจผิด ทั้งได้ยื่นเอกสารต่าง ๆ ไว้ต่อศาลแล้ว

ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานแล้ว พิพากษาให้โจทก์ชนะ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบตัวจำเลยและพิจารณาเอกสารที่จำเลยส่งไว้ แล้วพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยได้ยื่นเอกสารเพื่ออ้างเป็นพยานต่อศาลไว้ 13 ฉบับ ศาลได้เรียกค่าอ้างจากจำเลยไว้แล้วทั้งจำเลยได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ไว้แล้วด้วย ควรอนุญาตให้จำเลยอ้างตนเองเบิกความอธิบายเอกสารที่อ้างนี้ และเบิกความแก้หรือหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ได้ ไม่ทำให้โจทก์เสียเปรียบประการใดศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืน

Share