คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2157/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศบรรทุกมาทางเรือ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือมีหน้าที่ต้องติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เรือได้เข้าเทียบท่า และติดต่อกับโจทก์ผู้เป็นเจ้าของสินค้าในเรือให้ไปรับใบปล่อยสินค้าจากจำเลยและจำเลยต้องขนสินค้าจากเรือเข้าคลังสินค้าโดยจำเลยได้รับบำเหน็จจากตัวการ ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยมีลักษณะร่วมกันขนสินค้ารายนี้อันเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอดโดยมีจำเลยรับขนในช่วงสุดท้าย จำเลยจึงเป็นผู้ขนส่ง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้สั่งซื้อกระจกจากบริษัทในประเทศไต้หวัน จำนวน 32 ลัง ราคาซีแอนด์เอฟ กรุงเทพมหานคร บริษัทผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้กับเรือซันมาร์สซึ่งจำเลยเป็นตัวแทนในประเทศไทย ก่อนเรือดังกล่าวมาถึงกรุงเทพมหานคร จำเลยในฐานะตัวแทนเรือได้แจ้งให้โจทก์ทราบกำหนดวันที่เรือจะเทียบท่าให้โจทก์นำเอกสารที่โจทก์ได้รับผ่านทางธนาคารไปแสดงแก่จำเลยเพื่อจำเลยจะออกใบสั่งให้โจทก์รับสินค้าจากเรือได้ และติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ในนามของเรือดังกล่าวเพื่อจัดการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือนำเข้าเก็บในคลังสินค้าของการท่าเรือ โดยได้ค่าตอบแทนเป็นสัดส่วนจากค่าระวางเรือขณะจำเลยขนสินค้าขึ้นจากเรือ ลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังในการขน ทำให้สินค้าบางส่วนแตกเสียหาย จำเลยในฐานะร่วมขนส่งจึงต้องรับผิด ขอให้จำเลยชำระเงิน67,174.69 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องเคลือบคลุมไม่ระบุให้ชัดว่า จำเลยต้องรับผิดในฐานะตัวแทนของบริษัทเรือหรือในฐานะผู้ขนส่งหรือผู้ร่วมขนส่งกับบริษัทเรือ จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทผู้ขายสินค้าหรือบริษัทเรือและมิได้เป็นตัวแทนผู้ขนส่งหรือผู้ร่วมขนส่ง โจทก์ติดต่อว่าจ้างจำเลยให้เป็นผู้ดำเนินพิธีการทางศุลกากรเท่านั้น จำเลยไม่มีหน้าที่ในการขนสินค้าขึ้นท่าเรือ สินค้าของโจทก์จะเสียหายจริงหรือไม่เพียงใด จำเลยไม่ทราบและไม่ต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 67,174.69 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘…ปัญหาต้องวินิจฉัยเป็นข้อที่สองมีว่า จำเลยเป็นผู้ขนส่งหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความจากทางนำสืบของทั้งสองฝ่ายว่าเมื่อเรือซันมาร์สจะเข้าเทียบท่าเรือกรุงเทพมหานคร จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือดังกล่าวมีหน้าที่ต้องติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เรือได้เข้าเทียบท่า และติดต่อกับโจทก์ผู้เป็นเจ้าของสินค้าในเรือให้ไปรับใบปล่อยสินค้าจากจำเลย และจำเลยต้องขนสินค้าจากเรือเข้าคลังสินค้าโดยจำเลยจะได้รับบำเหน็จจากตัวการ ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยมีลักษณะร่วมกันขนสินค้ารายนี้อันเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด มีจำเลยรับขนในช่วงสุดท้ายจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ขนส่ง…’
พิพากษายืน.

Share