คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เครื่องหมายจราจรเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้ผู้ขับรถได้ระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย การเลี้ยวกลับรถโดยฝ่าฝืน เครื่องหมายจราจร ถ้าใช้ความระมัดระวังพอสมควรก็สามารถทำได้ โดยปลอดภัยการฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรดังกล่าวจึงมิใช่เป็น ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอันจะเป็นผลให้ผู้รับประกันภัยไม่ ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปตามถนนและเลี้ยวกลับรถตัดหน้ารถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ ทำให้รถยนต์ทั้งสองคันชนกันและได้รับความเสียหายโจทก์ได้จัดการซ่อมรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้แล้ว และได้ทวงถามค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ของจำเลยที่ 1 แล้วจำเลยทั้งสองไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 77,000บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การว่ามิได้ขับรถตัดหน้ารถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ขับรถด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน52,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 1ขับรถประมาท โดยขับรถเลี้ยวกลับที่หัวเกาะกลางถนนเชิงสะพานอรุณอัมรินทร์ ซึ่งมีเครื่องหมายจราจรห้ามกลับรถเป็นเหตุให้รถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้กับรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับชนกันได้รับความเสียหาย มีปัญหาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่า เครื่องหมายจราจรเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้ผู้ขับรถได้ระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยตรงที่เกิดเหตุหากจะเลี้ยงกลับรถโดยฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรถ้าใช้ความระมัดระวังพอสมควรก็สามารถทำได้โดยปลอดภัยการฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรตรงที่เกิดเหตุจึงหาใช่เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้วฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share