คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพียง 1 ครั้งแต่อาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นมีดปลายแหลมซึ่งมีความยาวมากเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบเศษ ด้ามมีดยาวประมาณ 1 คืบแทงผู้เสียหายถูกที่บ่าด้านหลังข้างซ้ายลึกประมาณ 1คืบถึงกระดูกสะบัก บาดแผลยาวประมาณ 4 นิ้วแสดงว่าจำเลยแทงผู้เสียหายอย่างแรงจนตัวมีดเกือบมิดถึงด้ามมีดถูกที่สำคัญซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อแทงแล้วจำเลยก็ยังไม่ยอมปล่อยมีดที่ปักคา อยู่ ธ. กับ บ. ต้องเข้ามาช่วยดึงมือจำเลยมีดที่ปักอยู่จึงหลุดตามมือ ของจำเลยออกมา ผู้เสียหายเสียเลือดมาก หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยย่อมมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดเป็นอาวุธแทงทำร้ายนายบุญเลี้ยงผู้เสียหายที่บริเวณด้านหลังเหนือสะบักซ้าย 1 ครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลสมดังเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยทำร้ายร่งกายผู้เสียหายครั้งนี้ แม้จะแทงผู้เสียหายเพียง 1 ครั้งก็ตาม แต่อาวุธที่ใช้ทำร้ายนั้นเป็นมีดปลายแหลมใช้สำหรับตัดเนื้อและหั่นเนื้อซึ่งคงจะต้องมีความคมมาก เฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบเศษด้ามมีดยาวประมาณ 1 คืบ แทงผู้เสียหายถูกที่ป่าด้านหลังข้างซ้ายลึกถึงสะบักได้ความจากนายบุญธรรมคำขุนทดพยานโจทก์ซึ่งเข้าไปดึงมีดที่ปักอยู่ที่ไหล่ของผู้เสียหายว่า มีดแทงลึกเข้าไปในร่างกายผู้เสียหายประมาณ 1 คืบ และตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ระบุว่า บาดแผลยาวประมาณ 4 นิ้วจากลักษณะบาดแผลดังกล่าวแสดงว่า จำเลยแทงผู้เสียหายอย่างรุนแรงจนมีดเกือบมิดถึงด้ามมีด ถูกที่สำคัญคือลึกถึงสะบักซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจเมื่อแทงแล้วจำเลยก็ยังไม่ยอมปล่อยมีดที่ปักคาอยู่ที่ร่างกายของผู้เสียหาย ข้อนี้นายบุญธรรม คำขุนทด พยานโจทก์เบิกความว่า พยานเห็นจำเลยกดมีดที่ปักอยู่ใกล้คอด้านหลังของผู้เสียหาย พยานจึงเข้าไปจับถือจำเลยเพื่อให้ดึงมีดที่ปักอยู่ออก แต่จำเลยไม่ยอมปล่อยมือออกจากมีด พยานดึงมีดไม่ออกจึงเรียกให้นายบางมาช่วยนายบางวิ่งเข้ามาช่วยดึงมือจำเลยที่กดมีดอยู่ มีดที่ปักอยู่จึงได้หลุดตามมือของจำเลยออกมา และบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็เป็นอันตรายร้ายแรงมากจนแพทย์ที่โรงพยาบาลโนนสูงไม่สามารถรับผู้เสียหายไว้ทำการรักษาพยาบาลได้ ต้องส่งตัวมาให้แพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาซึ่งมีเครื่องมือแพทย์ดีกว่าช่วยรักษาพยาบาลให้ผู้เสียหายถูกแทงเมื่อเวลาประมาณ13 นาฬิกา พอดึงมีดออกมาได้ก็หมดสติ และมารู้สึกตัวเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ความจากแพทย์ทีปวิทย์ หนูเพชรพยานโจทก์ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรและรักษาบาดแผลของผู้เสียหายว่าผู้เสียหายมีอาการเสียเลือดมากตอนมาถึงโรงพยาบาล พยานรีบให้เลือดแก่ผู้เสียหายบาดแผลที่ผู้เสียหายถูกแทงลึกถึงกระดูกสะบัก แผลยาวและเส้นเลือดขาดทำให้เลือดออกมากถ้ามาช้าและไม่ได้รับการให้เลือดรักษาก็อาจทำให้ถึงตายเพราะเสียเลือดมาก จากพฤติการณ์ดังกล่าวมาเชื่อได้ว่า หากนายบุญธรรมและนายบางไม่เข้าไปขัดขวางจำเลยไว้ได้ทันจำเลยก็อาจทำร้ายผู้เสียหายจนถึงแก่ความตายได้ หรือหากผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ทันท่วงทีแล้ว ผู้เสียหายคงต้องถึงแก่ความตายเนื่องจากผลแห่งการกระทำของจำเลยกรณีเช่นนี้จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แม้ว่าผู้เสียหายกับจำเลยจะเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่าหาได้ลบล้างการกระทำที่เป็นเครื่องชี้เจตนาของจำเลยแต่อย่างใดไม่ เมื่อจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่การกระทำไม่บรรลุผลสมดังเจตนาของจำเลยเพราะมีผู้อื่นเข้าขัดขวางไว้ได้ทัน ประกอบกับแพทย์ได้ทำการรักษาพยาบาลทันท่วงที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามฟ้องโจทก์

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80

Share