คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด ผู้คัดค้านแต่ผู้เดียวเป็นผู้มีหน้าที่ในการรวบรวมและจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 ดังนั้น การยึดที่ดินพิพาททั้งสองแปลงที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรวม จึงเป็นอำนาจของผู้คัดค้าน ผู้ร้องเป็นเพียงตัวแทนของผู้คัดค้านในการนำบันทึกข้อความขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ดำเนินการยึดและขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแทน ไปยื่นและดำเนินการแทนผู้คัดค้านเท่านั้น หาใช่ผู้ร้องโดยส่วนตัวเป็นผู้ยึดทรัพย์ดังกล่าวแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด อันส่งผลให้ผู้คัดค้านหมดอำนาจในการจัดการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ผู้คัดค้านจึงต้องเป็นผู้ดำเนินการถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวเอง ไม่อาจสั่งให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงตัวแทนของผู้คัดค้านในการนำยึดไปดำเนินการถอนการยึดและชำระค่าธรรมเนียมได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสองเด็ดขาด ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.4760/2552 แต่ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด และมีคำสั่งไม่รับฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 เนื่องจากจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายก่อนโจทก์ฟ้องคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้คัดค้านมีหมายแจ้งให้ผู้ร้องดำเนินการถอนการยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 14722 ตำบลบ้านนา อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และที่ดินโฉนดเลขที่ 17718 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่มีกรรมสิทธิ์รวมระหว่างจำเลยที่ 1 และนายพิชิต และให้ผู้ร้องชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย คำสั่งและคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านไม่ชอบ เนื่องจากขณะฟ้องคดีผู้ร้องตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรแล้วไม่พบข้อมูลว่าจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตาย ส่วนการดำเนินคดียึดที่ดินทั้งสองแปลง ผู้คัดค้านใช้ดุลพินิจดำเนินการตามที่เจ้าหนี้รายอื่นแถลงให้นำยึดโดยผู้ร้องเป็นเพียงตัวแทนของผู้คัดค้านในการนำยึดเท่านั้น จึงไม่จำต้องชำระค่าธรรมเนียมการยึดแล้วไม่มีการขาย ขอให้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้คัดค้านในการรวบรวมทรัพย์สินและผู้ร้องเป็นผู้ดำเนินคดีนำยึดที่ดินทั้งสองแปลง เมื่อศาลเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด ผู้คัดค้านจึงหมดอำนาจที่จะดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ผู้คัดค้านจึงต้องแจ้งให้ผู้ร้องมาดำเนินการถอนการยึดและชำระค่าธรรมเนียม คำสั่งและคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความมิได้อุทธรณ์โต้แย้งกันรับฟังได้ว่า โจทก์ยื่นฟ้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด โจทก์คัดถ่ายแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรซึ่งมีการปรับปรุงครั้งสุดท้าย ซึ่งข้อมูลในขณะนั้นไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตาย ในระหว่างที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้รายที่ 2 ยื่นคำร้องต่อผู้คัดค้านขอส่งต้นฉบับที่ดินโฉนดเลขที่ 14722 ตำบลบ้านนา อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และที่ดินโฉนดเลขที่ 17718 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1 และนายพิชิต ผู้คัดค้านได้แจ้งให้ผู้ร้องมาดำเนินการนำยึดทรัพย์ แต่ผู้ร้องเพิกเฉย ผู้คัดค้านจึงนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อปรึกษาว่าจะดำเนินการอย่างใดและหากที่ประชุมเจ้าหนี้ประสงค์บังคับคดีต่อทรัพย์ ก็จะต้องแต่งตั้งเจ้าหนี้อื่นมาเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์แทนผู้ร้อง ในวันประชุม ผู้ร้องแถลงว่าจะเป็นผู้นำยึดทรัพย์เองและผู้คัดค้านได้มีบันทึกข้อความขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ดำเนินการยึดและขายทอดตลาดที่ดินแทนให้ผู้ร้องได้ไปดำเนินการนำยึดที่ดินทั้งสองแปลง
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องจะต้องดำเนินการถอนการยึดที่ดินพิพาทและชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายหรือไม่ เห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด ผู้คัดค้านแต่ผู้เดียวเป็นผู้มีหน้าที่ในการรวบรวมและจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 ดังนั้น การยึดที่ดินพิพาททั้งสองแปลงที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรวม จึงเป็นอำนาจของผู้คัดค้าน ผู้ร้องเป็นเพียงตัวแทนของผู้คัดค้านในการนำบันทึกข้อความขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ดำเนินการยึดและขายทอดตลาดที่ดินแทน ไปยื่นและดำเนินการแทนผู้คัดค้านเท่านั้น หาใช่ผู้ร้องโดยส่วนตัวเป็นผู้นำยึดทรัพย์แต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด อันส่งผลให้ผู้คัดค้านหมดอำนาจในการจัดรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ผู้คัดค้านจึงต้องเป็นผู้ดำเนินการถอนการยึดทรัพย์เอง ไม่อาจสั่งให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงตัวแทนของผู้คัดค้านในการนำยึดไปดำเนินการถอนการยึดและชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายได้ อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องจึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ผู้ร้องดำเนินการถอนการยึดและชำระค่าธรรมเนียมในการถอนการยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 14722 ตำบลบ้านนา อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และที่ดินโฉนดเลขที่ 17718 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ

Share