แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ล. มิได้เป็นจำเลยในคดีนี้ กรณีจึงมิต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232 ซึ่งห้ามมิให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 91, 138, 140, 289(2), 339, 340 ตรี, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 21,000 บาท แก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 138 วรรคสอง, 140 วรรคสาม, 289(2) ประกอบด้วยมาตรา 80, 339 วรรคสอง, 340 ตรี, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้จำคุก 6 เดือน ความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรให้จำคุก 6 เดือน ความผิดฐานชิงทรัพย์ให้จำคุก 18 ปี ความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานให้จำคุกตลอดชีวิต เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกตลอดชีวิต ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 21,000 บาท แก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยมีกำหนด 18 ปี 12 เดือน ให้ยกฟ้องข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 289, 80 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์อ้างคำให้การของนายหลงที่ซัดทอดจำเลยว่าร่วมกระทำความผิดด้วย ไม่ชอบที่ศาลจะรับฟัง เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232 ซึ่งห้ามมิให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานนั้น เห็นว่า นายหลงมิได้เป็นจำเลยในคดีนี้ กรณีจึงมิต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าว พยานจำเลยซึ่งนำสืบอ้างฐานที่อยู่ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยร่วมเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ในคดีนี้…
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7