แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ เมื่อผู้พิพากษาผู้ซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้อุทธรณ์แล้ว โจทก์ร่วมจะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ เพราะการที่ผู้พิพากษาผู้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาใช้ดุลพินิจอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นอำนาจเฉพาะตัวอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้นั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ป.อ. มาตรา 91 และนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1252/2544 กับ 1253/2544 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4257/2544 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ระหว่างพิจารณา นางสุวรรณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาคดีนี้อนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ทวิ
ศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษาที่พิจารณาพิพากษาคดีสั่งในคำร้องว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ยกคำร้องและสั่งในอุทธรณ์ว่า เมื่อไม่อนุญาตให้อุทธรณ์ จึงไม่รับเป็นอุทธรณ์
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้น โดยอนุญาตให้โจทก์ร่วมอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงโดยขอให้ผู้พิพากษาผู้ซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ทวิ เมื่อผู้พิพากษาผู้ซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาคดีนี้ในศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้อุทธรณ์แล้ว โจทก์ร่วมจะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนั้นต่อศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ เพราะการที่ผู้พิพากษาผู้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาใช้ดุลพินิจอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นอำนาจเฉพาะตัวอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้ซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น
พิพากษายืน.