คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อันว่าแดนกรรมสิทธิตาม มาตรา 1335 นั้น ชั้นแรกจำต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพิ้นดินและใต้พื้นดินด้วย (อ้างฎีกาที่ 266/2483)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินและตึกสองชั้นหนึ่งหลังแล้วครอบครองตลอดมา จำเลยนำรังวัดแบ่งแยกที่ดินของจำเลยซึ่งมีโฉนด แล้วทับที่ของโจทก์ เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมแก้โฉนดจึงขอให้ศาลพิพากษาว่าโฉนดจำเลยที่ทับที่โจทก์เป็นโมฆะและที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่มีโฉนดของจำเลยไม่ได้ทับที่โจทก์ ๆ ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นทางเดินเข้าบ้านจำเลยเป็นของจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายชายคาตึกของโจทก์ปลูกสร้างล้ำเข้ามาในทางเดินของจำเลยแต่เจ้าของเดิมนานกว่า 20 ปีแล้ว จึงพิพากษายืน

โจทก์ ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องแดนกรรมสิทธิ

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า แดนกรรมสิทธิตาม มาตรา 1335 นั้น ชั้นแรกต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วยตามฎีกาที่ 266/2483 จึงพิพากษายืน

Share