แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายนั้น ศาลต้องกำหนดโทษจำเลยอย่างกระทำผิดสำเร็จก่อนแล้วจึงลดฐานพยายามตาม ก.ม.อาญา ม.60 เมื่อมีเหตุจะต้องเพิ่มโทษจำเลยจึงให้เพิ่มทีหลัง จะเอาเหตุเพิ่มโทษมาหักกลบลบกับโทษฐานพยายามไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจสมคบกันใช้อาวุธปืนยิงนายใช้โดยเจตนา แต่กระสุนไม่ถูกที่สำคัญ นายใช้จึงไม่ถึงแก่ความตาย ก่อนคดีนี้จำเลยที่ ๒ เคยต้องโทษตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษมายังไม่เกิน ๕ ปี ไม่เข็ดหลาบ ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๒๕๐,๖๐,๗๒
จำเลยทั้งสองปฎิเสธ ส่วนข้อเคยต้องโทษจำเลยที่ ๑ รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษมายังไม่เกิน ๕ ปี จริงดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๖๐ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑๒ ปี ปรากฎว่าจำเลยที่ ๒ เคยต้องโทษมาครั้งหนึ่งพ้นโทษยังไม่เกิน ๕ ปี มากระทำผิดอีก ให้เพิ่มโทษอีก ๑ ใน ๓ ตาม ก.ม.อาญา ม.๗๒ โทษที่เพิ่มและที่ลดมีกำหนดเสมอกัน ให้หักกลบลบกันไปตาม ม.๓๙ คงลงโทษจำคุก จำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๘ ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะจำเลยที่ ๒ ว่า ให้จำคุกจำเลยที่ ๒ ตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙,๖๐ มีกำหนด ๑๒ ปี จำเลยที่ ๒ ไม่เข็ดหลาบให้เพิ่มโทษตาม ม.๗๒ อีก ๑ใน ๓ เป็น ลงโทษจำคุก ๑๖ ปี นอกจากที่แก้นี้คงเป็นไปตามเดิม
โจทก์ฎีกาว่าโทษที่จะเพิ่มจำเลยที่ ๒ ฐานไม่เข็ดหลาบตาม ก.ม.อาญา ม.๗๒ และโทษที่จะลดฐานพยายามแก่จำเลยที่ ๒ ตาม ก.ม.อาญา ม.๖๐ มีส่วน ๑ ใน ๓ เท่ากันขอให้หักกลบลบกันไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาศาลจำต้องกำหนดโทษจำเลยที่ ๒ อย่างกระทำผิดสำเร็จก่อนแล้วจึงลดฐานพยายามตาม ก.ม.อาญา ม.๖๐ เมื่อมีเหตุที่จะเพิ่มโทษจำเลยที่ ๒ จึงให้เพิ่มทีหลัง จะเอาเหตุเพิ่มโทษมาหักกลบลบกับโทษฐานพยายามไม่ได้ตามคำพิพากษาฎีกาบรรทัดฐานที่ ๑๑๑/๑๓๐ ในคดีระหว่างกองตระเวนเมืองนครเขื่อนขันธ์ โจทก์ มะสง จำเลย พิพากษายืน