แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อันว่าแดนกรรมสิทธิตาม ม.1335 นั้น ชั้นแรกจำต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย
(อ้างฎีกาที่ 266/2483).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินและตึกสองชั้นหนึ่งหลังแล้วได้ครอบครองตลอดมา จำเลยนำรังวัดแบ่งแยกที่ดินของจำเลย ซึ่งมีโฉนดแล้วทับที่ของโจทก์ เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมแก้โฉนดจึงขอให้ศาลพิพากษว่าโฉนดจำเลยที่ทับที่โจทก์เป็นโมฆะและที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่มีโฉนดของจำเลยไม่ได้ทับที่โจทก์ ๆ ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นทางเดินเข้าบ้านจำเลยเป็นของจำเลยโดยชอบด้วย ก.ม. ชายคาตึกของโจทก์ปลูกสร้างล้ำเข้ามาในทางเดินของจำเลยแต่เจ้าของเดิมนานกว่า ๒๐ ปีแล้ว จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ข้อ ก.ม. เรื่องแดนกรรมสิทธิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อ ก.ม. ว่า ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า แดนกรรมสิทธิตาม ม.๑๓๓๕ นั้นชั้นแรกต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วยตามฎีกาที่ ๒๖๖/๒๔๘๓ จึงพิพากษายืน.