คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2111/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สายพานที่จำเลยลักและกำลังม้วนอยู่นั้น เพียงแต่หลุดจากมู่เล่อันบนและอันล่าง ที่สายพานเชื่อมกันอยู่ แต่สายพานยังคงพาดอยู่กับเพลาและสลักต่อสายพานถูกชักออกแล้ว จำเลยม้วนสายพานได้ 1 ใน 10 ของความยาว และคงอยู่ข้างมู่เล่นั้นเอง ดังนี้ ถือว่าการลักทรัพย์ยังไม่สำเร็จเพราะสายพานยังมิได้เคลื่อนหลุดไปจากที่ คงผิดเพียงฐานพยายาม.

ย่อยาว

โจทก์หาว่า จำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์ ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔,๒๙๘,๒๙๙,๗๒ จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับข้อเคยต้องโทษ ได้ความว่า สายพานของกลางที่จำเลยทำการลักนั้น เดิมเชื่อมระหว่างมู่เล่บนและล่างที่ติดอยู่กับเพลา คนยามไปพบจำเลยขณะกำลังม้วนสายพานอยู่ สายพานหลุดจากมู่เล่ไปพาดอยู่กับเพลา สลักที่ต่อกับสายพานถูกชักออกแล้ว ทำให้ปลายหลุดออกจากกัน ชายข้างหนึ่งถูกม้วนเข้าไปราว ๓-๔ ฟุตซึ่งประมาณ ๑ ใน ๑๐ ของความยาวและคงอยู่ข้างมู่เล่นั้นเอง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นต้องกันว่า จำเลยผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๙,๖๐ ให้จำคุก ๒ ปี ๖ เดือน เพิ่มโทษ ๑ ใน ๓ เป็น ๓ ปี ๔ เดือน คืนของกลาง
โจทก์ฎีกาว่า เป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้ว ขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์
ศาลฎีกาเห็นว่า สายพานรายนี้ยังมิได้เคลื่อนหลุดไปจากที่ ที่ศาลล่างทั้งสองชี้ขาดว่าเป็นผิดฐานพยายามชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share