คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2110/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯมาตรา91วรรคหนึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยและต่างประเทศโดยถือเอาสถานที่อยู่ตามความเป็นจริงของเจ้าหนี้ในช่วงระยะเวลาที่มีการประกาศโฆษณาให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นสำคัญโดยไม่คำนึงถึงภูมิลำเนาตามกฎหมายของเจ้าหนี้ดังกล่าวว่าอยู่ณที่ใดเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าในช่วงระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกาศโฆษณาให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ผู้ร้องอยู่ในราชอาณาจักรแม้ผู้ร้องจะมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรและเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวในช่วงระยะเวลาดังกล่าวก็ตามก็ต้องถือว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักรตามบทบัญญัติดังกล่าวเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลย(ลูกหนี้) ทั้งสองเด็ดขาด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2537 ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่วงเลยระยะเวลาที่กำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องอยู่ในราชอาณาจักรจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษา ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักรโดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศษ จึงได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ออกไปอีกไม่เกินสองเดือน แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยกคำร้องและไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง ผู้ร้องเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว ไม่ทราบว่ามีการโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 2 เด็ดขาด ขอให้กลับคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และมีคำสั่งรับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในวันที่ 15 ตุลาคม 2537 แต่ได้เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2537 ในวันที่โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2537)ผู้ร้องยังคงอยู่ในราชอาณาจักร บทบัญญัติมาตรา 91 ดังกล่าว มีเจตนารมณ์ให้เจ้าหนี้ซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โดยมิพักต้องพิเคราะห์ว่าเจ้าหนี้จะเป็นคนไทยหรือชาวต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรหรือไม่ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติรับฟังได้ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 26สิงหาคม 2537 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งดังกล่าวในหนังสือพิมพ์รายวันดาวสยาม ฉบับลงวันที่ 27 กันยายน 2537และในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2537พร้อมทั้งแจ้งให้บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้น ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 2 มกราคม 2538ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศษ และเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นเงินจำนวน 5,280,000 บาท เมื่อระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2537 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2537 ผู้ร้องอยู่ในประเทศไทย และยื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2538 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต้องฎีกาของผู้ร้องว่า คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่ขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า “เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรบชำระหนี้ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขยายกำหนดเวลาให้อีกได้ไม่เกินสองเดือน” ตามบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรนั้นหมายถึงเจ้าหนี้ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างประเทศโดยถือเอาสถานที่อยู่ตามความเป็นจริงของเจ้าหนี้ในช่วงระยะเวลาที่มีการประกาศโฆษณาให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นสำคัญไม่ต้องคำนึงถึงภูมิลำเนาตามกฎหมายของเจ้าหนี้ดังกล่าวว่าอยู่ ณ ที่ใด ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ในช่วงระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกาศโฆษณาให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องอยู่ในราชอาณาจักร แม้ผู้ร้องจะมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรและเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวในช่วงระยะเวลาดังกล่าวก็ตามกรณีก็ต้องถือว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักรตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ให้ผู้ร้องได้คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share