แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การบรรจุ แต่งตั้งและการเลื่อนตำแหน่งพนักงานรัฐวิสาหกิจย่อมมุ่งหมายให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่แน่นอนชัดเจนเมื่อข้อบังคับการสื่อสารแห่งประเทศไทยกำหนดให้การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีผู้สอบคัดเลือกเป็นไปตามที่ผู้ว่าการกำหนดและผู้ว่าการได้วางระเบียบไว้แล้วว่าบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ให้ใช้ได้จนกว่าจะมีการสอบคัดเลือกใหม่และประกาศผลแล้วดังนั้น การยกเลิกบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ทุกคราวต้องเป็นไปตามระเบียบที่วางไว้ ย่อมไม่ใช่ความมุ่งหมายของข้อบังคับและระเบียบดังกล่าวที่จะให้ผู้ว่าการมากำหนดวิธียกเลิกบัญชีเฉพาะการสอบคราวใดคราวหนึ่งให้ผิดแผกไปจากระเบียบที่วางไว้และยังใช้บังคับอยู่ฉะนั้นผู้ว่าการจึงไม่มีอำนาจที่จะกำหนดว่าบัญชีผลการสอบคัดเลือกครั้งพิพาทใช้ได้มีกำหนด 2 ปีนับแต่วันประกาศผลการสอบคัดเลือก
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ และข้อบังคับที่เกิดขึ้นจากการแจ้งข้อเรียกร้องต่างก็เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา 20 แห่งกฎหมายดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงสิทธิหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานที่มีอยู่เดิมย่อมเป็นการทำสัญญาจ้างแรงงานตามบทบัญญัตินี้ด้วย เมื่อความผูกพันตามสัญญาจ้างแรงงานที่มีอยู่เดิมผลการสอบคัดเลือกให้ใช้ได้จนกว่าจะมีการสอบใหม่และประกาศผลแล้ว แต่ข้อกำหนดที่ออกภายหลังตามประกาศผลการสอบคัดเลือกครั้งพิพาทระบุว่าผลการสอบใช้ได้เพียง2 ปีจึงไม่เป็นคุณแก่โจทก์ผู้เป็นลูกจ้างเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ มาตรา 20 จึงใช้บังคับไม่ได้ชอบที่ศาลจะเพิกถอนเสียตามที่โจทก์ขอ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำตำแหน่งนิติกรระดับ 5 เดิมจำเลยออกระเบียบฉบับที่ 24/2520 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเลื่อนพนักงานให้ดำรงตำแหน่งให้สูงขึ้นว่าบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ให้ใช้จนกว่าจะมีการสอบคัดเลือกอย่างเดียวกันนั้นอีก และได้ประกาศผลการสอบครั้งใหม่แล้ว ต่อมาเมื่อโจทก์สอบคัดเลือกเป็นนิติกรระดับ 6 ได้ จำเลยกลับออกประกาศใหม่ในท้ายผลการสอบคัดเลือกว่าบัญชีผลการสอบคัดเลือกให้ใช้ได้มีกำหนด 2 ปีนับแต่วันประกาศผลการสอบเป็นต้นไปทำให้โจทก์หมดโอกาสที่จะได้รับบรรจุเป็นนิติกรระดับ 6 และเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงระเบียบเดิมโดยขัดต่อมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ ขอให้ศาลเพิกถอนประกาศหรือระเบียบฉบับหลัง และให้จำเลยแต่งตั้งโจทก์ดำรงค์ตำแหน่งนิติกรระดับ 6
จำเลยให้การว่า ระเบียบฉบับที่ 24/2520 เป็นระเบียบทั่ว ๆ ไป ผู้ว่าการจำเลยมีอำนาจตามข้อบังคับการสื่อสารแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 3 ว่าด้วยการบรรจุ แต่งตั้งฯพ.ศ. 2520 ซึ่งออกตามความในมาตรา 13 และมาตรา 29(5) แห่งพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทยฯ ที่จะออกคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ การเลื่อนตำแหน่งไม่อยู่ในความหมายของ “สภาพการจ้าง” ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 5และขณะยื่นคำให้การกองนิติการของจำเลยไม่มีตำแหน่งนิติกรระดับ 6 ว่างจึงไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งโจทก์ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจ การบรรจุแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งพนักงานย่อมมุ่งหมายให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่แน่นอนชัดเจนเมื่อข้อบังคับการสื่อสารแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 3 ข้อ 18 วรรคสาม กำหนดให้การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีผู้สอบคัดเลือกเป็นไปตามที่ผู้ว่าการกำหนด และผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทยได้อาศัยข้อบังคับดังกล่าววางระเบียบการสื่อสารแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24/2520 ไว้แล้วว่า บัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ให้ใช้ได้จนกว่าจะมีการสอบคัดเลือกอย่างเดียวกันนั้นอีก และได้ประกาศผลการสอบคัดเลือกในตำแหน่งใหม่นั้นแล้ว ดังนี้การยกเลิกบัญชีผู้สอบคัดเลือกในการสอบทุกคราวก็ต้องเป็นไปตามระเบียบที่วางไว้ ย่อมมิใช่ความมุ่งหมายของข้อบังคับและระเบียบดังกล่าวที่จะให้ผู้ว่าการของจำเลยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับการสื่อสารแห่งประเทศไทยฉบับที่ 3 มากำหนดวิธียกเลิกบัญชีเฉพาะการสอบคัดเลือกคราวใดคราวหนึ่งให้ผิดแผกไปจากระเบียบที่วางไว้แล้วและยังใช้บังคับอยู่อีก ฉะนั้นการที่ผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทยได้ประกาศผลการสอบคัดเลือก ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 แล้วกำหนดว่า บัญชีผลการสอบคัดเลือกครั้งนี้ให้ใช้ได้มีกำหนด 2 ปีนับแต่วันประกาศผลการสอบคัดเลือก ข้อกำหนดนั้นจึงเป็นการฝ่าฝืนระเบียบการสื่อสารแห่งประเทศไทยฉบับที่ 24/2520 และไม่มีอำนาจที่จะกำหนดได้
ส่วนปัญหาที่ว่าข้อกำหนดตามประกาศผลการสอบคัดเลือกดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 20 หรือไม่ เห็นว่าข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไม่ว่าจะเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานซึ่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 10 ให้ถือว่าเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือชนิดที่เกิดขึ้นจากการแจ้งข้อเรียกร้อง ก็เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา 20 อันนายจ้างต้องห้ามมิให้ทำสัญญาจ้างแรงงานกับลูกจ้างขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้น เว้นแต่จะเป็นคุณแก่ลูกจ้างยิ่งกว่าเช่นเดียวกัน และการเปลี่ยนแปลงสิทธิหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานที่มีอยู่แต่เดิมย่อมเป็นการทำสัญญาจ้างแรงงานตามบทบัญญัตินี้ด้วย (ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 236/2522) เมื่อความผูกพันตามสัญญาจ้างแรงงานที่มีอยู่เดิมตามระเบียบของจำเลยฉบับที่ 24/2520 ผลการสอบคัดเลือกให้ใช้ได้จนกว่าจะมีการสอบคัดเลือกใหม่และประกาศผลการสอบแล้ว แต่ตามข้อกำหนดที่ออกในภายหลังตามประกาศผลการสอบคัดเลือกของจำเลยลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 ผลการสอบคัดเลือกคงใช้ได้เพียง 2 ปี และปรากฏว่าหากประกาศผลการสอบของจำเลยไม่กำหนดระยะเวลาไว้ ในวันฟ้องคดีนี้โจทก์ก็ยังมีสิทธิเลื่อนเป็นพนักงานช่วยบริหารระดับ 3หรือนิติกร 6 ได้ ข้อกำหนดตามประกาศผลการสอบคัดเลือกของจำเลยจึงไม่เป็นคุณแก่โจทก์ เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 20 จึงใช้บังคับไม่ได้ชอบที่จะเพิกถอนเสียตามที่โจทก์ขอ ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยอย่างไรก็ดี ได้ความว่าอัตรานิติกร 6 ยังไม่ว่าง จึงไม่อาจบังคับตามคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยแต่งตั้งโจทก์ดำรงตำแหน่งนิติกร 6 ได้
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนข้อกำหนดตามประกาศการสื่อสารแห่งประเทศไทยเรื่องผลการสอบคัดเลือกเพื่อเลื่อนตำแหน่งพนักงานขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพนักงานช่วยบริหารระดับ 3 หรือเทียบเท่า สังกัดกองนิติการ ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 เฉพาะข้อความที่ว่า “บัญชีผลการสอบคัดเลือกครั้งนี้ให้ใช้ได้มีกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่วันประกาศผลการสอบคัดเลือกเป็นต้นไป” เสีย