คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 หมายถึงกิจการใดที่ตัวแทนจะไปทำกับบุคคลภายนอกแทนตัวการ กฎหมายบังคับไว้ว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนไปทำกิจการนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย มิฉะนั้นกิจการที่ตัวแทนกระทำไปกับบุคคลภายนอกจะไม่สมบูรณ์ แต่ในระหว่างตัวแทนกับตัวการด้วยกัน ตัวแทนจะอ้างมาตรา 798 มาใช้บังคับไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 435/2507)
เมื่อคดีนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนกับจำเลย (ตัวการ) ซึ่งแม้การตั้งโจทก์เป็นตัวแทนไปทำการเช่าบ้านพิพาทแทนจำเลยจะมิได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็จะอ้างมาตรา 798 มาใช้บังคับไม่ได้ และไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าบ้านจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่ออยู่ อาศัยมาประมาณ 20 ปีเศษแล้ว เนื่องจากโจทก์ไปรับราชการต่างจังหวัด โจทก์จึงให้จำเลยพร้อมกับบุตรอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทได้บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามทำให้โจทก์เสียหายเท่ากับค่าเช่าบ้านเดือนละ 500 บาท ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

จำเลยให้การว่า เดิมจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่บุตรจำเลยเรียนหนังสืออยู่ในจังหวัดพระนคร โจทก์และภริยาแนะนำให้จำเลยรับโอนสิทธิการเช่าบ้านจากนายตาล พงษ์กล่ำ ซึ่งเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และอยู่ติดกับบ้านโจทก์และภริยาจำเลยจึงให้โจทก์ทำนิติกรรมการเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แทนจำเลยในนามของโจทก์ โจทก์ตกลงจะโอนสิทธิการเช่าให้บุตรจำเลยเมื่อบุตรจำเลยบรรลุนิติภาวะ หรือตามแต่จำเลยจะสั่งเมื่อบุตรจำเลยบรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยขอให้โจทก์โอนสิทธิการเช่าตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์บิดพลิ้วเรื่อยมา จำเลยจึงยื่นคำร้องขอเช่าตรงต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จำเลยมิได้อยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยโจทก์ แต่จำเลยครอบครองบ้านพิพาทในฐานะผู้เช่าตลอดมาบ้านพิพาทเก่าแล้วค่าเช่าไม่เกิน 200 บาท ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยรับโอนสิทธิการเช่าบ้านพิพาทจากนายตาล แล้วให้โจทก์ทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แทนจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือว่าจำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทแทนจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 และไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือว่าสามีจำเลยให้ความยินยอมหรือให้สัตยาบันในการที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การเช่าบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การตั้งตัวแทนให้ทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทจึงต้องทำเป็นหนังสือด้วยตามมาตรา 798 แต่จำเลยมิได้มีหนังสือที่ตั้งโจทก์เป็นตัวแทนไปเช่าบ้านพิพาทแทนจำเลยมาแสดง คงนำพยานบุคคลมาสืบ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ที่ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เช่าบ้านพิพาทแทนจำเลยนั้น เป็นการฟังข้อเท็จจริงผิดกฎหมาย ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจฟังข้อเท็จจริงเสียใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(3) และเชื่อว่าโจทก์เช่าบ้านพิพาทเพื่อตัวโจทก์เอง มิใช่เช่าแทนจำเลย พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นว่า ให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกจากบ้านพิพาท ให้จำเลยเสียค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายออกจากบ้านพิพาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยรับโอนสิทธิการเช่าบ้านพิพาทมาจากนายตาล พงศ์กล่ำ ซึ่งเช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้วให้โจทก์ทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แทนจำเลยโดยมิได้ตั้งตัวแทนเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ และเห็นว่าบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 หมายถึงกิจการใดที่ตัวแทนจะไปทำกับบุคคลภายนอกแทนตัวการ กฎหมายบังคับไว้ว่าต้องหาเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนไปทำกิจการนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย มิฉะนั้นกิจการที่ตัวแทนกระทำไปกับบุคคลภายนอกจะไม่สมบูรณ์ แต่ในระหว่างตัวแทนกับตัวการด้วยกัน ตัวแทนจะอ้างมาตรา 798 มาใช้บังคับไม่ได้ตามนัยฎีกาที่ 435/2507 คดีนี้เป็นเรื่องระหว่างตัวแทนกับตัวการด้วยกัน แม้การตั้งตัวแทนให้ไปทำการเช่าจะมิได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตามโจทก์ก็จะอ้างมาตรา 798 มาใช้บังคับไม่ได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์เป็นตัวแทนไปทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทแทนจำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์

Share