คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2470

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทย์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดรวม ๓ กะทง (๑) ฐานลักทรัพย์ (๒) ฐานหลบหนีจากที่คุมขัง (๓) ฐานแต่งเครื่องแบบราชการปลอมตนเปนเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๖๓,๒๙๓,๒๙๔,๑๒๗
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินต้องกันให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๙๓ ให้จำคุก ๖ เดือน แต่ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามมาตรา ๑๒๘ แล ๑๖๓ อีกกะทงละ ๑ เดือน
จำเลยฎีกา
ฎีกาตัดสินว่าในเรื่องลักทรัพย์นั้นเปนข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๔๖๑ มาตรา ๓ คงฎีกาได้แต่เฉภาะ ๒ ข้อที่ศาลอุทธรณ์แก้เท่านั้น ส่วนเรื่องที่หาว่าจำเลยถูกผู้บังคับการสั่งขังฐานผิดวินัยแล้วหลบหนีไป ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินให้ลงโทษจำเลยฐานหลบหนีจากที่คุมขัง แต่เรื่องที่จำเลยหลบหนีแล้วแต่เครื่องแบบปลอมตนเปนเจ้าพนักงานนั้นศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยเปนตำรวจประจำการมียศเปนว่าที่นายสิบตำรวจโท ผู้บังคับการได้เรียกเครื่องแบบคืนแล้วแต่หาได้ถอดยศไม่ ตามพระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวตำรวจภูธร พ.ศ.๒๔๕๘ ข้อ ๔ ต้องถือว่าจำเลยยังมียศอยู่ การที่จำเลยแต่งตัวเปนนายสิบตำรวจตรีหนีไปจากที่คุมขัง ทางพิจารณาไม่ได้ความปรากฎว่าจำเลยได้แต่งไปทำการทุจริต จึงไม่มีผิดให้ยกฟ้องในข้อนี้เสีย

Share