คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21-23/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์กับจำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานโดยกำหนดว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์เมื่อใดก็ได้และโจทก์จะไม่เรียกร้องอย่างใด ๆ เอากับจำเลยนั้น เป็นเพียงข้อสัญญาซึ่งให้สิทธิจำเลยที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเท่านั้น มิได้หมายความว่าโจทก์สละสิทธิไม่เรียกร้องเงินซึ่งพึงจะได้รับตามกฎหมาย
ค่าชดเชยเป็นเงินซึ่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 46 บังคับให้นายจ้างจ่ายแก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้าง ซึ่งประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับอย่างกฎหมาย โจทก์กับจำเลยจะตกลงทำสัญญาจ้างแรงงานโดยมีข้อตกลงใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศฉบับดังกล่าวหาได้ไม่ การที่โจทก์กับจำเลยตกลงกันโดยกำหนดให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย ย่อมเป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย เป็นการขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 46 ไม่มีผลใช้บังคับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยออกจากงานเพราะหมดความจำเป็น โดยโจทก์ไม่มีความผิด และไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยในตำแหน่งกรรมกรได้รับค่าจ้างเป็นรายวันเฉพาะวันที่มาทำงาน ตอนที่โจทก์เข้าทำงานกับจำเลยนั้นได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์เมื่อใดก็ได้และโจทก์จะไม่เรียกร้องอย่างใด ๆ เอากับจำเลย ดังนั้นเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามข้อตกลงโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเงินจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า แม้ในการตกลงจ้างแรงงานหรือสัญญาจ้างแรงงานจะเกิดขึ้นด้วยความยินยอมหรือความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งคู่สัญญามีสิทธิที่จะตกลงหรือกำหนดเงื่อนไขในการจ้างอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าเงื่อนไขหรือข้อตกลงข้อใดมีวัตถุประสงค์ซึ่งเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายแล้วเงื่อนไขหรือข้อตกลงนั้น ย่อมไร้ผลบังคับ การที่โจทก์กับจำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานโดยกำหนดว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์เมื่อใดก็ได้และโจทก์จะไม่เรียกร้องอย่างใด ๆ เอากับจำเลยนั้น เป็นเพียงข้อสัญญาซึ่งให้สิทธิจำเลยที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเท่านั้น มิได้หมายความว่า โจทก์สละสิทธิไม่เรียกร้องเงินซึ่งพึงจะได้รับตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม แม้จะแปลข้อตกลงคำว่า โจทก์จะไม่เรียกร้องอย่างใด ๆ เอากับจำเลยนั้น คู่สัญญามีเจตนาให้รวมถึงการไม่เรียกร้องค่าชดเชยด้วยก็ตาม แต่ค่าชดเชยเป็นเงินซึ่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๔๖ บังคับให้นายจ้างจ่ายแก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างซึ่งประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับอย่างกฎหมาย โจทก์กับจำเลยจะตกลงทำสัญญาจ้างแรงงานโดยมีข้อตกลงใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศฉบับดังกล่าวหาได้ไม่การที่โจทก์กับจำเลยตกลงกันโดยกำหนดให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยย่อมเป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายเป็นการขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๔๖ ไม่มีผลใช้บังคับ
พิพากษายืน

Share