แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เอาประกันได้ปิดร้านที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันไว้ มีประตูเหล็กปิดกั้นใส่กุญแจแล้วเอาโซ่ล่ามใส่กุญแจอีกชั้นหนึ่ง คนร้ายได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวในร้านโดยโซ่และกุญแจหายไปด้วย ดังนี้ถือได้ว่าคนร้ายเข้าไปโดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงตามกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งระบุให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์สถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงแล้ว ผู้รับประกันภัยจึงต้องรับผิดตามกรมธรรม์ดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยทรัพย์สินไว้กับจำเลยประเภทประกันโจรกรรมและบุกรุกในวงเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมามีคนร้ายทำการงัดแงะหรือไขกุญแจเข้าไปในที่เก็บทรัพย์ตามกรมธรรม์แล้วลักเอาทรัพย์ต่าง ๆ ของโจทก์ไปมีมูลค่า ๓๐,๒๓๐ บาท ตามบัญชีท้ายฟ้อง โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบ จำเลยปฏิเสธการใช้เงินอ้างว่าความสูญหายนั้นกรมธรรม์ไม่คุ้มครอง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๓๐,๓๒๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อไป
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่รับรองว่าโจทก์ถูกโจรกรรมและทรัพย์สินหายไปจริงตามฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ชัดเจนว่าการกระทำผิดของคนร้ายโดยใช้วิธีใด สัญญากรมธรรม์ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินที่สูญหายจะต้องเกิดจากการโจรกรรมต่อเนื่องจากการที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปในสถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการที่รุนแรง เมื่อไม่ปรากฏร่องรอยการกระทำความผิดหรือลักษณะของการกระทำความผิดของคนร้ายว่าเกิดขึ้นประการใด จำเลยต้องรับผิด หากจะต้องรับผิดตามส่วนเฉลี่ยไม่เกิน ๑๔,๘๓๔.๒๕ บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๑๔,๘๓๔.๒๕ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคุลม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทรัพย์สินของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยตามกรมธรรม์ถูกคนร้ายโจรกรรมไปจริง ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับจำเลยข้อเอและบี คุ้มครองทรัพย์สินของโจทก์ในกรณีที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์ในสถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้ปิดร้ายค้าที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้มีประตูเหล็กปิดกั้น ใส่กุญแจแล้วเอาโซ่ล่ามใส่กุญแจอีกชั้นหนึ่งและคนร้ายได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวในร้านโดยโซ่และกุญแจหายไปด้วย เห็นได้ว่าคนร้ายเข้าไปโดยใข้กำลังและวิธีการุรนแรงตามกรมธรรม์แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดโจทก์ตามกรมธรรม์
พิพากษายืน