แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ขอให้นับโทษจำเลยติดต่อกับโทษในคดีที่ศาลได้พิพากษาไปแล้ว หากคดีหลังจำเลยให้การปฏิเสธและโจทก์มิได้นำสืบว่า จำเลยในคดีหลังเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีก่อน แม้สำนวนคดีก่อนโจทก์ก็มิได้อ้างไว้ในระบุพะยาน ดังนี้ ถือว่าไม่มีหลักฐานจะฟังว่าจำเลยได้ต้องโทษในคดีก่อน จะนับโทษจำเลยต่อกับโทษในคดีก่อนไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ทรัพย์ กับขอให้นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อโทษตามสำนวนคดีแดง ๓๘๑/๒๔๙๑ จำเลยทั้ง ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำผิดจริงดังฟ้อง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ ๑๒ ปี และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อจากคดีแดงที่ ๓๘๑/๒๔๙๑ นั้น คดีนั้นยังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ จึงไม่นับต่อให้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้คดีเดิมยังไม่ถึงที่สุด ก็นับโทษจำเลยต่อได้ แต่เรื่องนี้โจทก์ไม่ได้สืบว่าจำเลยที่ ๑ เป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีแดงที่ ๓๘๑/๒๔๙๑ หรือมิใช่ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้ คงพิพากษายืน
โจทก์และจำเลยทั้ง ๒ ฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยทั้ง ๒ กระทำผิดดังฟ้องตามศาลล่าง ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อกับคดีแดงที่ ๓๘๑/๒๔๙๑ นั้น คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ และโจทก์มิได้นำสืบเลยว่า จำเลยที่ ๑ เป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีแดงที่ ๓๘๑/๒๔๙๑ แม้แต่สำนวนคดีดังกล่าวโจทก์ก็หาได้ระบุอ้างไว้ในระบุพะยานไม่ คดีไม่มีหลักฐานจะฟังว่าจำเลยที่ ๑ ได้ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษในคดีแดงที่ ๓๘๑/๒๔๙๑ จึงไม่มีทางนับโทษจำเลยที่ ๑ ติดต่อกับโทษในคดีดังกล่าว
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์จำเลย