แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกรวม 4 คนได้ขึ้นไปบนบ้านเจ้าทรัพย์ จับเจ้าทรัพย์กับพวกมัดไว้ และค้นเอาทรัพย์ จำเลยได้ใช้ปืนขว้างและถือปืนยืนร้องอยู่หน้าบันไดบ้านเจ้าทรัพย์ว่า “ไม่ใช่ธุระของใคร ๆ อย่าเข้ามา” ดังนี้ รูปคดีฟังได้ชัดว่า เป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์แล้ว
ย่อยาว
ความว่า จำเลยกับพวกรวม ๔ คน มีปืนเป็นอาวุธขึ้นไปบนบ้านจับนายบัวเจ้าทรัพย์กับพวกมัด ค้นเอาทรัพย์และบังคับให้นายบัวหาเงินมาให้อีก ๗๐๐ บาท รวมกับที่ค้นเอาไป ๓๐๐ บาท เป็น ๑๐๐๐ บาท กับเหล็กสว่านเจาะไม้ ๑๐ ดอก กระสุนลูกซอง ๓ นัดโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ ๑๐ ปีตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๙๓ ให้จำคุกคนละ ๓ ปี
โจทก์,จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้พวกของจำเลยคนหนึ่งจะเป็นตำรวจ การที่จำเลยใช้ปืนขว้างและถือปืนยืนร้องอยู่หน้าบันไดบ้านนายบัวว่า “ไม่ใช่ธุระของใคร ๆ อย่าเข้ามา” ดังนี้ฟังได้ชัดว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามฟ้อง
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น
