คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดอุทธรณ์แล้ว 1 วัน อ้างเหตุว่าไปต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมายื่นอุทธรณ์ ขากลับฝนตกน้ำท่วมถนนทางขาด การเดินทางกินเวลา 2 วัน ทั้งมีการสวนสนามที่พระบรมรูปทรงม้าการจราจรติดขัดจึงยื่นไม่ทันกำหนด กรณีดังนี้มิใช่ว่าโจทก์จะไม่มีโอกาสที่จะยื่นอุทธรณ์หรือคำขอเลย โจทก์มีทนายชอบจะติดต่อกับทนายให้ดำเนินกระบวนพิจารณาแทนได้ ที่โจทก์เดินทางไปหาเงินต่างจังหวัดใกล้ชิดกับวันขาดอายุอุทธรณ์ เป็นความบกพร่องของโจทก์เองด้วย หาเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก แล้วโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนที่ขายคืนให้โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิไถ่ถอนคืน เพราะได้ทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิในการไถ่ถอนแล้ว และไม่เคยขอไถ่ถอนคืน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ และอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๑๓ ครบกำหนดอุทธรณ์วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๑๓ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์วันสุดท้ายแห่งระยะเวลาคือ วันจันทร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๓ โจทก์มิได้ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดดังกล่าว ครั้นวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๓ โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ไปหาเงินเพื่อมายื่นอุทธรณ์ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ การเดินทางกลับในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๑๓ แต่เนื่องจากน้ำท่วมถนนเป็นบางตอนตลอดทาง ทำให้ทางขาด การเดินทางกินเวลา ๒ วัน มาถึงศาลแพ่งเวลา ๑๖.๓๕ นาฬิกา ทั้งนี้ เพราะมีการเดินสวนสนามที่พระบรมรูปทรงม้า การจราจรติดขัดเป็นเหตุให้โจทก์ล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ขอให้ศาลสั่งรับอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า พฤติการณ์ตามคำร้องไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ จึงไม่อนุญาตให้ขยายเวลา ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า กรณีข้ออ้างของโจทก์เป็นเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ บัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้ แต่การขยายหรือย่นระยะเวลาเช่นนี้ ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้นเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยที่โจทก์เพิ่งมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์และยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นเวลาตามที่กำหนดไว้ในการยื่นอุทธรณ์นั้น มิใช่ว่าโจทก์ไม่มีโอกาสที่จะยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำขอดังกล่าวเลย ปรากฏว่าคดีนี้โจทก์มีทนายว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์ซึ่งทนายโจทก์ก็ตั้งสำนักงานอยู่ในจังหวัดพระนคร แม้โจทก์จะไม่อยู่ในจังหวัดพระนคร โจทก์ก็ชอบที่จะติดต่อทนายโจทก์ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์ได้อยู่แล้วตลอดเวลาที่โจทก์อ้างว่าต้องเดินทางไปหาเงินต่างจังหวัดในระยะเวลาใกล้ชิดกับวันขาดอายุอุทธรณ์ นับว่าเป็นความบกพร่องของโจทก์เอง หาใช่เป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยไม่ทั้งตามพฤติการณ์ที่โจทก์อ้างก็ไม่พึงถือได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขอขยายกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์ได้ด้วย
พิพากษายืน

Share