แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัวที่ขาดต่ออายุแล้วก่อนวันใช้ พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 นั้น เมื่อใช้พระราชบัญญัติฉบับ พ.ศ.2493 แล้วก็ถือว่าใบสำคัญเก่านั้นถูกยกเลิกไป กรณีไม่เข้าตาม มาตรา 28 ต้องถือเป็นคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญตาม มาตรา 5 จึงไม่เป็นผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัว (เทียบฎีกาที่ 196/2499)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของจำเลยหมดอายุตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2483 จำเลยละเลยไม่ต่ออายุใบสำคัญฯ
จำเลยให้การว่าจำเลยเป็นคนไทย และแม้จะฟังว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว คดีก็หมดอายุความแล้ว
ศาลจังหวัดกะบี่ฟังว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าวทำผิดจริงตามฟ้องปรับ 300 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าหน้าที่จำเลยต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวใหม่ โจทก์กลับฟ้องจำเลยฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญ เป็นความผิดคนละฐาน ลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษากลับ ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ยกเลิกพระราชบัญญัติฉบับเก่า ๆ เสียทั้งสิ้นเช่นนี้ จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายฉบับเก่าคาบเกี่ยวตลอดมาจนถึงเวลาใช้กฎหมายฉบับใหม่ ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้วในฎีกาที่ 196/2499 ว่า การที่ใบสำคัญหมดอายุก่อนวันใช้พระราชบัญญัติฉบับ พ.ศ. 2493 และจำเลยไม่ได้ขอต่ออายุใบสำคัญนั้นเสียล่วงเลยมาจนใช้กฎหมายใหม่แล้ว ใบสำคัญฉบับเก่าจึงถูกยกเลิกไป จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวใหม่ เมื่อจำเลยละเลย ย่อมมีผิดฐานเป็นคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญประจำตัวตามพระราชบัญญัติฉบับ พ.ศ. 2493 มาตรา 5 แต่ฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญ จึงเป็นฟ้องผิดฐาน จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์