คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องหาว่าเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน จำเลยสมคบกันเปนคนร้ายปล้นเอาทรัพย์สิ่งของรวบราคา ๓๔๕ บาทของนางขีดไป ที่ตำบลไฝ่วง อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๐-๓๐๑ ฯ
จำเลยทั้ง ๓ คนให้การปฏิเสธ แลต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลจังหวัดอ่างทองพิจารณาได้ความว่า ในวันเวลาที่โจทย์หาจำเลยทั้ง ๓ คนได้เปนคนร้ายถืออาวุธขึ้นไปบนเรือนนางขีดเจ้าทรัพย์แลใช้วาจากิริยาขู่ โดยนายห่วงเอามือกดนางขีดไว้ นายถึกเอาปืนจ้องอยู่ที่หน้านางชีด นายเต็มเข้าเก็บเอาทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ แล้วช่วนกันพาทรัพย์ลงจากเรือนหนีไป ได้ความดังนี้ ศาลจังหวัดอ่างทองทำความเห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ ให้ลงโทษจำคุกคนละ ๑๐ ปี กับให้ช่วยกันใช้ทรัพย์ ถ้าไม่ใช้ให้จำไถ่โทษโดยอัตราวันละ ๑ บาท ตามความเห็นนี้อธิบดีมณฑลกรุงเก่าเห็นชอบด้วย จึงเปนคำพิพากษาบังคับ ฯ
จำเลยอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลเดิม ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ขอความกรุณาลดหย่อนผ่อนโทษ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแลประชุมปฤกษาคดีนี้ คงได้ความตามทางพิจารณาดังกล่าวข้างต้น เห็นว่ากิริยาของจำเลยกระทำผิดเปนฐานปล้นทรัพย์ ที่ศาลล่างกำหนดโทษจำคุก ๑๐ ปีเปนกำหนดอย่างต่ำตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ อยู่แล้ว ฎีกาจำเลยไม่มีทางที่จะได้ลดหย่อนผ่อนโทษให้เบาลงอีกได้ จึงพร้อมกันพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ แลให้ยกฎีกาของจำเลยเสีย ฯ

Share