แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้นย่อมทำได้ ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม (ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรกจึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ารับใคร่ได้เสียเป็นสามีภรรยากับจำเลยมิได้จดทะเบียนเกิดบุตรหญิงคนหนึ่งชื่อตุ๋ม จำเลยไปแจ้งสำมะโนครัวและขอสูติบัตรว่าเป็นบุตรของจำเลยเกิดจากโจทก์ ต่อมาจำเลยไปสมรสกับหญิงอื่นทอดทิ้งจึงขอให้ศาลสั่งให้จำเลยรับรองบุตรและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กเดือนละ ๔๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าเคยเกี่ยวพันกับโจทก์บ้างแต่เลิกติดต่อกันมาราว ๒ ปีแล้ว เด็กหญิงมิใช่บุตรจำเลย ๆ ไปแจ้งทะเบียนก็โดยโจทก์ร้องขอ โจทก์เรียกค่าเลี้ยงดูมากไป
ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางพิพากษาว่า ด.ญ.ตุ๋มเป็นบุตรจำเลยให้จำเลยชำระค่าเลี้ยงดูเดือนละ ๒๐๐ บาทนับแต่วันพิพากษาไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กพิพากษาแก้เฉพาะข้อที่ว่าให้จำเลยใช้ค่าเลี้ยงดูแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด แต่มีความเห็นแย้งว่าควรพิพากษาแก้ให้ยกข้อที่บังคับให้จำเลยใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่โจทก์เสีย
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู แม้มีอำนาจฟ้องก็ขอลดหย่อน
ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนเห็นว่าการที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับที่ขอให้จำเลยรับรองบุตรย่อมทำได้ไม่มี ก.ม. ห้ามโดยเห็นเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องต่อจากเรื่องรับรองบุตร ถ้าศาลมีคำสั่งว่า ด.ญ.ตุ๋มไม่ใช่บุตรของจำเลย ๆ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นโจทก์มิได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะที่โจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อที่จะให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์ จึงไม่เป็นอุทลุมตาม ม.๑๕๓๔ เรื่องอำนาจปกครองบุตรซึ่งจำเลยเถียงว่าต้องตกอยู่แก่จำเลยผู้เป็นบิดาเด็กหญิงตุ๋ม ความข้อนี้จำเลยมิได้ยกขึ้นคัดค้านแต่แรก กับให้การต่อสู้ว่า ด.ญ.ตุ๋มไม่ใช่บุตรของจำเลยจึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย จึงพิพากษายืน.