คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกร่วมกันจับผู้เสียหายให้ล้มลง แล้วช่วย กันจับแขนขาผู้เสียหายให้พวกของจำเลย 2 คนผลัดกันกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งอันเป็นการกระทำผิดฐานโทรมหญิง การกระทำของจำเลยเป็นการร่วมกันกระทำความผิดอันเป็นตัวการตาม ป.อ. มาตรา 83แม้จำเลยจะมิได้กระทำชำเราผู้เสียหาย ก็ถือว่า เป็นตัวการข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงด้วย ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยเป็นตัวการข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ไม่เป็นข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 276 วรรคสองศาลจะระบุไว้ในคำพิพากษาลอย ๆ แต่เพียงเลขมาตราว่า กระทำผิดตามป.อ. มาตรา 276 เท่านั้นไม่ได้ กรณีสมควรระบุให้แจ้งชัดด้วยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดในวรรคตอนใด ของมาตรานั้นด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ำจเลยกับพวกร่วมกันผลัดเปลี่ยนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 276 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ำจเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุก 15 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันใช้กำลังกายประทุษร้ายจับตัวผู้เสียหาย กระชากให้ล้มลงแล้วช่วยกันจับแขนจับขา จำเลยกับพวกได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกับนายหัวแดงช่วยกันจับขาผู้เสียหายไว้คนละข้างแล้ว ถ่างออกให้นายด้วงข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเสร็จแล้วนายด้วงมาจับขาแทนนายหัวแดงเพื่อให้นายหัวแดงข่มขืนกระทำชำเราต่อไปแล้วนายหัวแดงมาจับขาแทนจำเลยเพื่อให้จำเลยข่มขืนกระทำชำเราแต่จำเลยก็มิได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จึงเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องจึงชอบที่จะยกฟ้องนั้น เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์นั้น แม้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยมิได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยก็ตาม แต่การที่จำเลยช่วยจับขาของผู้เสียหายไว้เพื่อให้นายด้วงข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ไปแล้ว และจำเลยยังคงจับขาผู้เสียหายไว้เพื่อให้นายหัวแดงข่มขืนกระทำชำเราต่อไปเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการร่วมกับนายด้วงและนายหัวแดงเพื่อกระทำความผิดอันเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว และเมื่อผู้เสียหายถุกข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง จำเลยก็ย่อมเป็นตัวการในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามบทกฎหมายดังกล่าวด้วย ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงหาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องดังข้อฎีกาของจำเลยไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276โดยมิได้ระบุไว้ว่าเป็นความผิดวรรคใดนั้นเห็นสมควรระบุให้ถูกต้องและเมื่อพิเคราะห์ถึงอายุและการกระทำของจำเลยแล้วเห็นว่าขณะเกิดเหตุ จำเลยมีอายุ 18 ปี ยังอ่อนต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและได้กระทำความผิดร่วมกับพวกซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันด้วยความคึกคะนองเห็นควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง ให้ลดมาตราส่วนโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 จำคุกจำเลยมีกำหนด 10 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”.

Share